โอลโม่ติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังลาลีกาและสมาคมฟุตบอลสเปนปฏิเสธการขึ้นทะเบียนให้บาร์ซ่า

โอลโม่ติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังลาลีกาและสมาคมฟุตบอลสเปนปฏิเสธการขึ้นทะเบียนให้บาร์ซ่า

องค์กรฟุตบอลของประเทศ สเปน ได้ปฏิเสธความพยายามของ บาร์เซโลน่า ในการขึ้นทะเบียนกองกลาง ดานี่ โอลโม่ (Dani Olmo) และกองหน้า เปา วิคเตอร์ (Pau Victor) สำหรับช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล นักเตะที่เซ็นสัญญาในช่วงซัมเมอร์ทั้งสองคนได้รับการขึ้นทะเบียนเพียงถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดเพดานเงินเดือนของการแข่งขัน ทั้งสองคนอาจต้องพักการลงเล่นจนถึงช่วงซัมเมอร์ โดยอาชีพของพวกเขาต้องหยุดชะงัก ในขณะที่มีข่าวลือเมื่อเร็วๆ นี้ว่า โอลโม่ ที่มีทีมให้ความสนใจมากมายอาจจะย้ายออกจากสโมสร โอลโม่ วัย 26 ปี เป็นตัวหลักในทีมของ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาร์บี ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวประมาณ 51 ล้านปอนด์ หลังจากช่วยให้ สเปน คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่วน วิคเตอร์ อดีตนักเตะ จิโรน่า วัย 23 ปี ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองเกือบทั้งหมดใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้

แถลงการณ์ร่วมจาก สมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลา ลีกา ยืนยันว่าพวกเขาปฏิเสธคำขอของ บาร์เซโลน่า ในการขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองคน

RFEF และ ลา ลีกา ระบุว่าทั้งสององค์กรพอใจกับสถานะการเงินที่ดีขึ้นของสโมสรหลังจากความพยายามล่าสุดในการระดมทุน อย่างไรก็ตาม กฎของลีกระบุว่าสโมสรเดียวกันไม่สามารถขึ้นทะเบียนนักเตะซ้ำในฤดูกาลเดียวกันที่การขึ้นทะเบียนถูกยกเลิก ตามแถลงการณ์ร่วม คำขอของ บาร์เซโลน่า ทางเข้าสโบ ในการขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองคนก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธโดยศาลสองแห่ง สื่อ สเปน รายงานว่า บาร์เซโลน่า ยังคงวางแผนที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน เพื่อขอขยายการขึ้นทะเบียนของนักเตะ แม้ว่าสโมสรยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลล่าสุด บาร์เซโลน่า อยู่อันดับ 3 ใน ลา ลีกา ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด 5 คะแนน 

 

วิกฤตการณ์การขึ้นทะเบียนนักเตะของ บาร์เซโลน่ กรณี โอลโม่ และ วิคเตอร์

บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอล สเปน กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ในการบริหารจัดการทีม เมื่อความพยายามในการขึ้นทะเบียนนักเตะสองรายสำคัญ ดานี่ โอลโม่ (Dani Olmo) และ เปา วิคเตอร์ (Pau Victor) สำหรับช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2024-25 ถูกปฏิเสธโดยทั้ง สมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลา ลีกา

สถานการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การเซ็นสัญญาในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา เมื่อ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจทุ่มทุนครั้งใหญ่เพื่อคว้าตัว โอลโม่ จาก อาร์บี ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวสูงถึง 51 ล้านปอนด์ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการพา ทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2024

ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) โอลโม่ วัย 26 ปี ทางเข้าสโบ ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุน ในขณะที่ เปา วิคเตอร์ อดีตดาวรุ่งจาก จิโรน่า วัย 23 ปี แม้จะได้โอกาสลงสนามน้อยกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามอง

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านเพดานเงินเดือนของ ลา ลีกา ทำให้ บาร์เซโลน่า สามารถขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองได้เพียงถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออนาคตของทั้งสองนักเตะ โดยเฉพาะ โอลโม่ ที่มีข่าวลือเกี่ยวกับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำของ ยุโรป

แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะพยายามปรับปรุงสถานะทางการเงินของสโมสร จนได้รับการยอมรับจากทั้ง RFEF และ ลา ลีกา แต่กฎระเบียบของลีกที่ห้ามขึ้นทะเบียนนักเตะซ้ำในฤดูกาลเดียวกันที่การขึ้นทะเบียนถูกยกเลิก กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ การอุทธรณ์ต่อศาลสองครั้งก็ไม่เป็นผล ทำให้สโมสรต้องพิจารณาทางเลือกสุดท้ายด้วยการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน

ผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลต่อตัวนักเตะเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความหวังในการไล่ล่าแชมป์ ลา ลีกา ของ บาร์เซโลน่า ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด อยู่ 5 คะแนน การสูญเสียนักเตะคุณภาพอย่าง โอลโม่ และ วิคเตอร์ อาจส่งผลต่อความลึกของขุมกำลังในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

สถานการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารจัดการทางการเงินของสโมสรฟุตบอลภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดของ ลา ลีกา และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการวางแผนในอนาคต การตัดสินใจของ บาร์เซโลน่า ในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน แสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งสุดท้ายในการแก้ไขสถานการณ์ แม้ว่าโอกาสความสำเร็จอาจจะไม่สูงนัก

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

ในศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศระหว่างทีมชาติ สเปน (Spain) กับทีมชาติ ฝรั่งเศส (France) ทีมชาติสเปนได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสด้วยสกอร์ 2-1 โดยในเกมนี้มีผู้เล่นหลายคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่ ที่ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติสเปนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ วันนี้เว็ป แทงบอลสโบเบต จะมาตัดเกรดผลงานนักของ ทีมชาติสเปน ให้ทุกคนได้ทราบ

ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) : 8.5

ลามีน ยามาล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ โดยเขาทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับทีมชาติสเปนด้วยการซัดไกลสุดงาม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรที่ยิงประตูได้ ฟอร์มของเขาในครึ่งแรกถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่ได้ครองบอลสามารถปั่นป่วนเกมรับของฝรั่งเศสได้ตลอดเวลา แม้ในครึ่งหลังฟอร์มจะดร็อปลงไปเล็กน้อยเนื่องจากทีมเน้นการรักษาสกอร์ แต่ผลงานโดยรวมของเขานับว่าน่าประทับใจมาก

ดานี่ โอลโม่ (Daniel Olmo) : 8.5

ดานี่ โอลโม่ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมนี้ เขามีส่วนสำคัญกับการทำประตูชัยของทีม ด้วยการโชว์ทักษะเหนือชั้นในการกระดกบอลหลบแนวรับของฝรั่งเศส ก่อนที่จะซัดเต็มข้อบอลแฉลบ ชูลส์ กุนเด้ เข้าประตูไป นอกจากการทำประตูแล้ว โอลโม่ยังมีการครองบอลที่ดี และการผ่านบอลที่แม่นยำ ทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของสเปน

อูไน ซิม่อน (Unai Simón) : 6.5

อูไน ซิม่อน ไม่สามารถป้องกันจังหวะเสียประตูแรกได้ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถยกระดับฟอร์มขึ้นมาได้เรื่อย ๆ โดยมีการยืนตำแหน่งที่ดีทำให้สามารถป้องกันลูกยิงของฝรั่งเศสได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังเล่นด้วยความนิ่งและมีวินัยในการทำหน้าที่ของตัวเอง

เฆซุส นาบาส (Jesús Navas) : 5.5

เฆซุส นาบาส แม้จะอายุ 38 ปี แต่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นเกม โดยการสู้กับ เอ็มบัปเป้ แต่ในช่วงต่อมาเขาไม่สามารถตัดบอลจาก เอ็มบัปเป้ ที่เปิดบอลให้ โกโล่ มูอานี่ ทำประตูนำ 1-0 หลังจากนั้น นาบาสก็โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์แนวรุกของฝรั่งเศส ก่อนที่จะบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออก

นาโช่ เฟร์นานเดซ (Nacho Fernández) : 6

นาโช่ เฟร์นานเดซ ต้องเจอกับความยากลำบากในการรับมือกับ โกโล่ มูอานี่ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และในครึ่งหลังต้องสู้กับ บาร์กโกล่า ที่ทั้งเร็วและแข็งแกร่ง แต่ก็ยังพอเอาตัวรอดมาได้

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (Aymeric Laporte) : 6.5

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ พลาดท่าให้ โกโล่ มูอานี่ ขึ้นโขกทำประตูแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถระเบิดฟอร์มขึ้นมาได้ และเล่นได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับ

มาร์ก กูกูเรย่า (Marc Cucurella) : 7

มาร์ก กูกูเรย่า สามารถสู้กับความรวดเร็วและคล่องตัวของ อุสมาน เดมเบเล่ ได้ดีเยี่ยม ทำให้ เดมเบเล่ ไม่สามารถเล่นได้ตามที่ต้องการ และยังทำเกมรุกได้โดดเด่นโดยวิ่งเติมเกมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นอกจากนี้ยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นและสกัดบอลแม่นยำ

โรดรี้ (Rodri) : 7.5

โรดรี้ ทำหน้าที่ในการเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง และยังครองบอลเหนียวแน่น รวมทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำ ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิสำหรับการทำหน้าที่ของมิดฟิลด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้

ฟาเบียน รุยซ์ (Fabián Ruiz) : 7

ฟาเบียน รุยซ์ มีโอกาสโหม่งทำประตูในช่วงต้นเกม แต่บทบาทในแดนกลางโดดเด่นมาก โดยเขาคอยเชื่อมเกมและคุมจังหวะการเล่น ทำให้แผงมิดฟิลด์ของสเปนเหนือกว่าฝรั่งเศส

อัลบาโร่ โมราต้า (Álvaro Morata) : 6

อัลบาโร่ โมราต้า แม้จะไม่ได้โดดเด่นในจังหวะเกมรุก แต่มีส่วนช่วยเกมรับของทีมเยอะมาก โดยพยายามลงไปเล่นลึก และหาจังหวะเปิดบอลยาวให้ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ได้ใช้ความเร็วเล่นงานเกมรับคู่แข่ง

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ (Nico Williams): 7

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา แต่ความเร็วของเขายังเป็นอันตรายมาก โดยในช่วงต้นครึ่งหลังเขาโชว์สปีดฉีกหนี ชูลส์ กุนเด้ แต่ไม่น่าเสียดายที่ ไมค์ เมนญอง วิ่งออกมาตัดบอลได้ทัน

ผู้เล่นสำรองที่ลงสนามก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะ ดาเนียล บีเบียน ที่ลงมาช่วยทำให้เกมรับของสเปนแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วน มิเกล เมริโน่ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีในการประสานงานในแดนกลางและแดนหน้า

 

ในภาพรวม ทีมชาติสเปนแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศส ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจากเว็ป แทงบอลสโบเบ็ต เว็ปเก็บสถิติข้อมูลกีฬาชื่อดัง