ทีมที่นำจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาสมักจะคว้าแชมป์หรือไม่?

ทีมที่นำจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาสมักจะคว้าแชมป์หรือไม่?

ลิเวอร์พูล จะฉลองการเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในวันคริสต์มาส หลังเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 6-3 ขณะที่ เซาแธมป์ตัน รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง

สถิติทีมจ่าฝูงช่วงคริสต์มาสกับการคว้าแชมป์:

  • จากทั้งหมด 32 ฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก มีเพียงครึ่งหนึ่ง (16 ฤดูกาล) ที่ทีมจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาสสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
  • ลิเวอร์พูล มีสถิติที่แย่กว่านั้นมาก จากการเป็นจ่าฝูงช่วงคริสต์มาส 7 ครั้ง พวกเขาคว้าแชมป์ได้เพียงครั้งเดียวในฤดูกาล 2019-20 นับตั้งแต่การก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก ในปี 1992
  • ลิเวอร์พูล ครองสถิติการเป็นจ่าฝูงช่วงคริสต์มาสมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ โดยทำได้ 21 ครั้ง และคว้าแชมป์ได้ 11 ครั้งจาก 20 ครั้งก่อนหน้านี้

ผู้จัดการทีม อาร์เน สล็อต (Arne Slot) กล่าวถึงการนำจ่าฝูงว่า: “มันแสดงให้เห็นว่าเรามีทีมที่ยอดเยี่ยม ยังเหลืออีก 3 เกมกว่าจะถึงครึ่งทาง แต่เราเป็นทีมที่เอาชนะได้ยาก ถ้าการคว้าแชมป์ลีกเป็นเรื่องง่าย ทุกทีมก็คงทำได้”

สถิติของทีมอื่นๆ:

  • อาร์เซนอล นำจ่าฝูงช่วงคริสต์มาสเป็นครั้งที่ 4 ในฤดูกาลที่แล้ว แต่เหมือนกับ 3 ครั้งก่อนหน้า พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ได้
  • เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยคว้าแชมป์หนึ่งครั้ง สามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงจนคว้าแชมป์ได้ทุกครั้ง

ทีมที่คว้าแชมป์โดยไม่ได้อยู่ใน 4 อันดับแรกช่วงคริสต์มาส:

  • มี 4 ครั้งที่ทีมอยู่นอก 4 อันดับแรกช่วงคริสต์มาสแต่คว้าแชมป์ได้ รวมถึงฤดูกาลที่แล้ว
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับ 5 ตามหลัง อาร์เซนอล 6 แต้ม แม้จะเตะน้อยกว่า 1 นัด และจบด้วยการคว้าแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำได้ในฤดูกาล 1996-97 (อันดับ 5)
  • อาร์เซนอล ทำได้ในฤดูกาล 1997-98 (อันดับ 6)
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ทำได้ในฤดูกาล 2020-21 (อันดับ 8)

นั่นแสดงให้เห็นว่าการเป็นจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาสไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่แน่นอน เว็บแทงบอลสเต็ป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่มีประวัติการพลาดท่าหลายครั้ง ในขณะที่บางทีมเช่น เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับรักษาตำแหน่งได้ดี นอกจากนี้ยังมีทีมที่สามารถพลิกสถานการณ์จากการอยู่นอก 4 อันดับแรกจนคว้าแชมป์ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พรีเมียร์ลีก เป็นการแข่งขันที่คาดเดาได้ยากและน่าติดตามตลอดทั้งฤดูกาล

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และโอกาสในการได้สิทธิ์เข้าร่วมรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรป

ใครจะได้โควตาไปเล่นในรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรป? ปัจจุบันสี่อันดับแรกคือ ลิเวอร์พูล (Liverpool), เชลซี (Chelsea), อาร์เซนอล (Arsenal) และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest)

บอร์นมัธ (Bournemouth) ที่รั้งอันดับ 5 อาจจะได้โควตาพิเศษในการเข้าร่วมแข่งขัน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมจากอังกฤษในรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้

แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) อยู่อันดับ 6 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) อยู่อันดับ 7 ซึ่งอาจจะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก (Europa League) และ คอนเฟอเรนซ์ ลีก (Conference League) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในรายการ คาราบาว คัพ (Carabao Cup) และ เอฟเอ คัพ (FA Cup)

ฤดูกาลที่แล้ว มีเพียง เวสต์แฮม (West Ham) ที่อยู่อันดับ 6 เท่านั้นที่ติดท็อปเซเว่นในช่วงคริสต์มาส แต่สุดท้ายหลุดออกไป โดยมี เชลซี (Chelsea) ที่อยู่อันดับ 10 ขึ้นมาแทนที่

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (Premier League) ฤดูกาล 2023/24 กำลังดำเนินมาถึงช่วงครึ่งฤดูกาล โดยการแย่งชิงโควตาในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล (Liverpool) นำจ่าฝูงของตารางคะแนน ตามด้วย เชลซี (Chelsea) อาร์เซนอล (Arsenal) และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ซึ่งทั้งสี่ทีมนี้มีโอกาสสูงที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ในฤดูกาลหน้า

ที่น่าสนใจคือ บอร์นมัธ (Bournemouth) ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เว็บแทงบอลสเต็ป กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการรั้งอันดับ 5 ของตาราง และมีโอกาสที่จะได้โควตาพิเศษในการเข้าร่วมการแข่งขัน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) หากทีมจากอังกฤษทำผลงานได้ดีในรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้

แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี (Unai Emery) กำลังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการรั้งอันดับ 6 ซึ่งอาจจะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก (Europa League) ในฤดูกาลหน้า

ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) แชมป์เก่าที่กำลังทำผลงานได้ไม่ดีนักในฤดูกาลนี้ รั้งอันดับ 7 ของตาราง ซึ่งอาจจะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน คอนเฟอเรนซ์ ลีก (Conference League) อย่างไรก็ตาม โควตาในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปยังขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในรายการถ้วยภายในประเทศอย่าง คาราบาว คัพ (Carabao Cup) และ เอฟเอ คัพ (FA Cup) อีกด้วย

เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติในฤดูกาลที่แล้ว เวสต์แฮม (West Ham) เป็นเพียงทีมเดียวจากท็อปเซเว่นในช่วงคริสต์มาสที่หลุดออกไปในช่วงท้ายฤดูกาล โดยมี เชลซี (Chelsea) ที่อยู่อันดับ 10 ในช่วงคริสต์มาส สามารถไต่อันดับขึ้นมาจบในท็อปเซเว่นได้สำเร็จ

การแข่งขันในช่วงที่เหลือของฤดูกาลยังคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะทุกทีมต่างต้องการโควตาในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป ซึ่งนอกจากจะเป็นเกียรติประวัติแล้ว ยังมีเงินรางวัลจำนวนมหาศาลรออยู่อีกด้วย โดยเฉพาะรายการ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ที่ถือเป็นรายการแข่งขันที่ทรงเกียรติที่สุดของสโมสรฟุตบอลในทวีปยุโรป

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิจารณ์สโมสรอย่างหนัก หลังขึ้นราคาตั๋วแบบ ‘น่ารังเกียจ’

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิจารณ์สโมสรอย่างหนัก หลังขึ้นราคาตั๋วแบบ ‘น่ารังเกียจ’

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มแฟนบอล หลังการตัดสินใจขึ้นราคาตั๋วสมาชิกทั้งหมดเป็น 66 ปอนด์ สำหรับเกมที่เหลือในฤดูกาลนี้ กลุ่มแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United Supporters’ Trust – MUST) เปิดเผยว่า สโมสรได้แจ้งต่อที่ประชุมแฟนบอลว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายราคาตั๋วบางส่วนจะมีผลทันที “และราคานี้จะมีผลกับทั้งเด็ก ผู้สูงอายุเกิน 65 ปี และผู้ใหญ่” แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน มีกำหนดจะจัดการประท้วงเรื่องราคาตั๋วก่อนเกมการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ในวันอาทิตย์นี้ โดยแฟนบอลจะรวมตัวกันบริเวณรูปปั้น Trinity นอกสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อสนับสนุนแคมเปญ ‘Stop Exploiting Loyalty’ ของสมาคมแฟนบอล (Football Supporters’ Association)

 

“วิกฤตราคาตั๋ว: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผชิญกระแสต่อต้านจากแฟนบอล”

 

ความตึงเครียดระหว่างสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) และแฟนบอลได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังการประกาศขึ้นราคาตั๋วครั้งล่าสุด โดยสโมสรได้ตัดสินใจปรับราคาตั๋วสมาชิกทุกประเภทเป็น 66 ปอนด์ต่อนัด สำหรับเกมที่เหลือในฤดูกาล 2023-24 การตัดสินใจครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มแฟนบอลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาใหม่นี้มีผลกับทุกกลุ่ม ไม่เว้นแม้แต่เด็กและผู้สูงอายุ sbobet ซึ่งแต่เดิมได้รับส่วนลดพิเศษ กลุ่มแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (MUST) ได้ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านอย่างแข็งขัน โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ “น่ารังเกียจ” ที่ให้แฟนบอลต้องแบกรับภาระจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและการขาดการลงทุนของตระกูล เกลเซอร์ (Glazer) ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา

 

ความไม่พอใจนี้ได้นำไปสู่การวางแผนประท้วงครั้งใหญ่ โดยแฟนบอลของทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน จะรวมตัวกันประท้วงก่อนเกม พรีเมียร์ลีก ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ การประท้วงดังกล่าวจะจัดขึ้นที่บริเวณรูปปั้น Trinity นอกสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ภายใต้แคมเปญ ‘Stop Exploiting Loyalty’ ซึ่งริเริ่มโดยสมาคมแฟนบอล

 

กลุ่ม MUST ยังได้วิจารณ์ถึงการขาดการปรึกษาหารือกับแฟนบอลก่อนการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้

โดยระบุว่าเป็นการถอยหลังจากกระบวนการที่เคยตกลงกันไว้ก่อนการเข้ามาของ INEOS ทางกลุ่มได้ประกาศว่าจะเร่งหารือกับสโมสรเพื่อให้รับฟังความกังวลของแฟนบอล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) sbobet ได้แสดงความจงรักภักดีต่อสโมสรอย่างไม่มีข้อกังขา พวกเขายังคงสนับสนุนทีมแม้ในช่วงที่ผลงานไม่เป็นไปตามความคาดหวัง อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาตั๋วครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยกลุ่มแฟนบอลได้ประกาศชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่นิ่งเฉยต่อการขึ้นราคาตั๋วและพร้อมที่จะต่อต้านความพยายามใดๆ ที่จะผลักภาระให้กับแฟนบอล สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่สโมสรฟุตบอลระดับโลกต้องเผชิญในการรักษาสมดุลระหว่างการบริหารการเงินและการรักษาความสัมพันธ์กับแฟนบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทั่วโลก การตัดสินใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระยะยาวกับแฟนบอล และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในนโยบายราคาตั๋วของสโมสรฟุตบอลอื่นๆ ในอนาคต ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้เห็นทีมที่มีเงินหนาอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องออกนโยบายรัดเข็มขัดเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ปล่อยให้ทีมมีการใช้จ่ายเงินที่มันฟุ่มเฟือยมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง และมันจะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่รู้จักที่ลงทุนอย่างคุ้มค่าดูบ้าง

 

รุด ฟาน นิสเตอรอย ซึ้งมันช่างเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่สุดแสนพิเศษ รับภูมิใจและพอใจมากกับผลงานในการคุมปิศาจแดงชั่วคราว 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1

รุด ฟาน นิสเตอรอย ซึ้งมันช่างเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่สุดแสนพิเศษ รับภูมิใจและพอใจมากกับผลงานในการคุมปิศาจแดงชั่วคราว 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1

รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) ได้จบสิ้นภาระกิจในการคุมทีม ปิศาจแดง ขัดตาทัพ ก่อนที่จะเป็น รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) กุนซือตัวจริง ที่จะรับงานแทน ซึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วงที่เขาได้คุมทีมนั้น คุมทีม 4 นัด ชนะไป 3 นัด เสมอ 1 นัดคือการเสมอกับ เชลซี (Chelsea) นั่นเอง ก่อนหน้านี้ทางด้าน รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) เป็นมือขวาของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ก่อนที่จะได้ขึ้นมารักษาการแทน หลัง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) โดนปลดไป ผลงานนัดสุดท้ายก็คือเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ ทีมปิศาจแดง เปิดบ้าน โอลด์ ทราฟฟอร์ด  เอาชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester city) ไปได้ 3-0 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าหลังจบเกม แฟนบอลก็ปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของ รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy)   กันดังกึกก้อง สนาม โอลด์ ทราฟฟอร์ด ซึ่งทางอดีตกองหน้าชาวดัตช์ ตำนานปิศาจแดง ก็ได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า เขานั้นมีความสุขมากๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ มันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ และสวยงามมากๆ แฟนบอลที่สนับสนุนพวกเรา เขารู้สึกดีมากจริงๆ ทางด้านกุนซือคนใหม่ อย่าง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) จะมารับงานในช่วง พักเบรคทีมชาตินี้ ส่วนอนาคต ของ รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) ในถิ่น โอลด์ ทราฟฟอร์ดนั้น จะเป็นเช่นไรต่อไปต้องรอดูกัน

 

รูเบ็น อโมริม ยันเตียมถก รุด ฟาน นิสเตอรอย เกี่ยวกับเรื่องอนาคตภายในทีมต่อไป ในวันที่เขามาถึง โอลด์ ทราฟฟอร์ด

 

สำหรับกุนซือคนใหม่ของ ปิศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester Unite) อย่าง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) นั้นเตรียมที่จะมีการพูดคุยกับทาง รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) ที่เพิ่งจะทำหน้าที่นัดสุดท้ายในฐานะกุนซือรักษาการของ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester Unite)  จบไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ ซึ่งทางกุนซือชาวโปรตุเกสนั้นได้จบสิ้นภาระกิจในการคุมทีมนัดสุดท้าย กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (Sporting CP) ด้วยผลงานเอาชนะไปได้ 4-2  และจากนั้นก็เตรียมที่จะเดินทางมาที่อังกฤษ เพื่อมารับงานอย่างเป็นทางการต่อไปที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester Unite) แน่นอนว่า ตัวของเขาต้องรีบจัดการเรื่องทีมงาน สต๊าฟโค้ชให้ชัดเจน รวมไปถึงตัวของ รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) ด้วยเช่นกัน everythingwin โดยทาง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) ต้องการที่จะระบุสถานะของ พี่รุด ให้ชัดเจนว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนอย่างไรต่อไป แน่นอนว่าทาง รูเบ็น อโมริม (Ruben Amorim) นั้นยกย่องผลงานในการรักษาการตำแหน่งกุนซือของ รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy) ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่เขาจะมาถึง และเขาก็เชื่อว่าทุกอย่างจะชัดเจนแน่นอนเมื่อทุกอย่างได้มีการพูดคุยกันเจอหน้ากันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันจันทร์นี้ everythingwin สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester Unite) นั้นหลังจากกลับมาจากเบรคทีมชาติ จะต้องบุกไปเยือน พอร์ตแมน โร้ด ของ อิปสวิช ทาวน์ (Ipswich Town) ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า นัดล่าสุดนี่ ม้าขาว อิปสวิช ทาวน์ (Ipswich Town) ฟอร์มแรงขนาดที่บุกไปขยี้ ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) มาได้ 2-1 ซึ่งถือไดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

 

งานนี้มีดีเลย์ รายงานข่าว ระบุว่า รูเบ็น อโมริม นั้นยังไม่ได้มาเริ่มงานที่ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังยังต้องรอ เวิร์ค เพอร์มิต ให้เรียบร้อยก่อน

 

รูเบ็น อโมริม กำลังจะเริ่มบทใหม่ในการคุมทีมที่อังกฤษ โดยมีกำหนดเดินทางมาถึงแมนเชสเตอร์ในวันจันทร์นี้ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถเริ่มงานได้ทันทีเนื่องจากต้องรอใบอนุญาตทำงานในสหราชอาณาจักร (เวิร์ค เพอร์มิต) ก่อน

กุนซือชาวโปรตุเกสเพิ่งจะปิดฉากการคุมทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยชัยชนะอย่างสวยงาม หลังพาทีมบุกเอาชนะบราก้าได้ 4-2 ในนัดสุดท้าย โดยคาดว่าเกมแรกที่เขาจะได้คุมทีมใหม่คือการพาทีมบุกเยือนอิปสวิช ทาวน์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน

ทั้งนี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว อโมริมจะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชน แต่จะพบกับสื่อครั้งแรกในการแถลงข่าวก่อนเกมแทน นอกจากนี้ มีรายงานว่าเขาจะนำทีมงาน 5 คนจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมงานด้วย และจะมีการหารือเกี่ยวกับอนาคตของรุด ฟาน นิสเตอรอยในเร็วๆ นี้

การเริ่มต้นที่สวยงามของลิเวอร์พูล – แต่อนาคตของนักเตะสามรายยังคงสำคัญ

การเริ่มต้นที่สวยงามของลิเวอร์พูล – แต่อนาคตของนักเตะสามรายยังคงสำคัญ

การเริ่มต้นที่สวยงามของลิเวอร์พูล – แต่อนาคตของนักเตะสามรายยังคงสำคัญ

ประตูชัยของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ที่ยิงใส่ ไบรท์ตัน (Brighton) ซึ่งส่งให้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ขึ้นนำจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก (Premier League) เป็นการเตือนความทรงจำที่เหมาะเจาะว่าทีม หงส์แดง อาจสูญเสียอะไรไปถ้าการเจรจาสัญญาไม่เป็นผล

ซาลาห์ (Salah) กองหน้า และกองหลังอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (Trent Alexander-Arnold) กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (Virgil van Dijk) เป็นสามเสาหลักในยุคแห่งความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) – แต่ในอีก 9 สัปดาห์พวกเขาทั้งหมดอาจเซ็นสัญญากับทีมอื่นเพื่อย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว

ทั้งสามคนกำลังจะหมดสัญญาในตอนจบฤดูกาลนี้ และมันเกิดขึ้นในฤดูกาลหลังจากที่ผู้จัดการทีมในตำนานอย่าง เจอร์เกน คล็อปป์ (Jurgen Klopp) ได้ออกจากทีมไปและทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ไมก้า ริชาร์ดส์ (Micah Richards) อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กล่าวกับ บีบีซี แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ (BBC Match of the Day) ว่า: “พวกเขาต้องเซ็นสัญญากับ โม ซาลาห์ (Mo Salah) มันสำคัญมากที่จะให้สัญญาเขา 2 ปี”

“เขาไม่จำเป็นต้องเล่นดีก็สามารถยิงประตูและสร้างช่วงเวลาสำคัญได้ นั่นคือความแตกต่างระหว่างนักเตะที่เก่งมากกับนักเตะระดับท็อป”

“เรากำลังพูดถึงนักเตะที่มีอิทธิพลที่สุดสามคน รวมถึงผู้รักษาประตูอย่าง อลิสซอน (Alisson)” เจมี่ คาร์ราเกอร์ (Jamie Carragher) อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล (Liverpool) กล่าว

“พวกเขาทั้งหมดเป็นตำนานของสโมสร และอาจเป็นเพราะพวกเขาในฤดูกาลนี้ที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ดีมาก การเจรจาสัญญาใหม่กับนักเตะทั้งสามรายนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของทีม”

และมันก็ไปได้ดีจริงๆ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ชนะอย่างน่าประทับใจ 13 จาก 15 เกมตั้งแต่ อาร์เน่ สล็อต (Arne Slot) เข้ามาแทนที่ คล็อปป์ (Klopp) ในช่วงซัมเมอร์ รวมถึงเกมวันเสาร์ที่พวกเขากลับมาตอบโต้หลังจากที่ ไบรท์ตัน (Brighton) ครองเกมในครึ่งแรก

“พวกเขากลับมาในครึ่งหลังด้วยทัศนคติที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง” คริส ซัตตัน (Chris Sutton) ผู้วิจารณ์ของ บีบีซี (BBC) กล่าว “นั่นคือความเข้มข้นแบบ คล็อปป์ (Klopp) จากทีมของ สล็อต (Slot) ในครึ่งหลัง และนั่นอาจเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล (Liverpool)”

ด้วย 220 ประตูจาก 364 เกม ซาลาห์ (Salah) ชาวอียิปต์อยู่ในอันดับที่ 5 ของผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ตามหลัง บิลลี่ ลิดเดลล์ (Billy Liddell) เพียง 8 ประตู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาต่อทีมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ประตูล่าสุดของเขาเป็นลูกยิงสวยงามโค้งเข้าเสาไกลจากทางขวา นับเป็นครั้งที่ 48 ที่เขายิงประตูชัยใน พรีเมียร์ลีก (Premier League) ซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำประตูสำคัญของเขา

“เป็นลูกพิเศษของ โม ซาลาห์ (Mo Salah)” สล็อต (Slot) อธิบาย “มันไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะยิงจากตำแหน่งนั้น นี่คือสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด”

ฟาน ไดค์ (Van Dijk) จ่ายบอลให้ โคดี้ กัคโป้ (Cody Gakpo) เพื่อนร่วมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยิงประตูตีเสมอ หลังจากที่ เฟอร์ดิ คาดิโอกลู (Ferdi Kadioglu) ทำประตูให้ ไบรท์ตัน (Brighton) ขึ้นนำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ ฟาน ไดค์ (Van Dijk) ในการสร้างโอกาสทำประตูนอกเหนือจากหน้าที่การป้องกัน

การรักษานักเตะคุณภาพทั้งสามรายนี้ไว้กับทีมจึงเป็นภารกิจสำคัญของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในช่วงเวลานี้ เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในสนามที่มีประสบการณ์และเข้าใจวัฒนธรรมของสโมสรเป็นอย่างดี

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

คำตัดสินคดี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ พรีเมียร์ลีก: ผลกระทบและความหมาย

คำตัดสินคดี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ พรีเมียร์ลีก: ผลกระทบและความหมาย

การตัดสินใจทางกฎหมายระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กับ พรีเมียร์ลีก (Premier League) เกี่ยวกับกฎของลีกในการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสรได้ถูกประกาศออกมาแล้ว โดยคดีนี้เกิดขึ้นจากข้อขัดแย้งเรื่องการทำธุรกรรมกับกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้อง (APT) ซึ่งมีความสำคัญในการรักษาความเป็นธรรมด้านการเงินของฟุตบอลอังกฤษ

การเดิมพันผ่าน สโบเบ็ตมือถือ เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพลาดโอกาสในการเล่น สโบเบ็ตมือถือ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเดิมพันผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว

การตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ซึ่งเป็นสโมสรภายใต้การสนับสนุนของกลุ่ม City Football Group จากอาบูดาบี ได้รับการยืนยันบางส่วนของการร้องเรียน โดยกฎบางประการของ APT ถูกตัดสินว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของการกู้ยืมจากผู้ถือหุ้นที่ไม่ควรถูกยกเว้นจากกฎนี้ อย่างไรก็ตาม ทางพรีเมียร์ลีก (Premier League) กล่าวว่าศาลปฏิเสธคำร้องส่วนใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และยังคงยืนยันวัตถุประสงค์หลักและโครงสร้างของกฎ APT โดยรวม

ไซมอน ลีฟ (Simon Leaf) หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายกีฬาแห่งสำนักงานกฎหมาย Mishcon de Reya กล่าวว่า “แม้ว่าคำตัดสินจะทำให้พรีเมียร์ลีกอับอายบ้าง แต่กฎส่วนใหญ่ของ APT ยังคงถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นนี่ไม่ใช่ชัยชนะใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่อย่างใด”

กฎ APT และความสำคัญของมูลค่าตลาดที่เป็นธรรม (FMV)

กฎ APT ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการทำธุรกรรมทางการค้าที่อาจเพิ่มมูลค่าสัญญาสปอนเซอร์ระหว่างสโมสรและบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสร เพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าตลาดที่เป็นธรรม (FMV) ข้อกำหนดเหล่านี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าการเงินของสโมสรยังคงเป็นไปตามกฎของพรีเมียร์ลีก (Premier League) และไม่ให้มีการปรับมูลค่าเกินความเป็นจริง ซึ่งอาจทำให้สโมสรมีเงินมากขึ้นในการใช้จ่ายด้านนักเตะหรือการพัฒนาทีม

นอกจากนั้น กฎเหล่านี้ยังได้รับการแก้ไขในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการย้ายภาระการพิสูจน์ไปยังสโมสร โดยสโมสรจะต้องแสดงหลักฐานว่าการทำธุรกรรมนั้นมีมูลค่าตามตลาดที่เป็นธรรม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ได้เป็นที่เห็นชอบของทุกสโมสร โดย 12 สโมสรลงคะแนนเห็นด้วย ขณะที่อีก 6 สโมสรลงคะแนนคัดค้าน

สโมสรที่เกี่ยวข้องและความคิดเห็น

ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการครั้งนี้ มีหลายสโมสรที่เข้าร่วมเป็นพยานให้ทั้งสองฝ่าย โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United), ลิเวอร์พูล (Liverpool), อาร์เซนอล (Arsenal), ท็อตแนม (Tottenham), ไบรท์ตัน (Brighton) และ เวสต์แฮม (West Ham) เป็นพยานให้กับพรีเมียร์ลีก ในขณะที่ เชลซี (Chelsea), นิวคาสเซิล (Newcastle) และ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ให้การสนับสนุนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้ยังมีสโมสรอย่าง เบรนท์ฟอร์ด (Brentford), บอร์นมัธ (Bournemouth), ฟูแลม (Fulham) และ วูล์ฟแฮมป์ตัน (Wolves) ที่ส่งจดหมายสนับสนุนกฎ APT อีกด้วย

พรีเมียร์ลีกได้ประกาศว่าจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาผลกระทบของคำตัดสินนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับปรุงกฎเกณฑ์บางส่วนในอนาคต

ผลกระทบต่ออนาคตของพรีเมียร์ลีก

คำตัดสินในคดีนี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของกฎ APT และความพยายามในการรักษาความเป็นธรรมในเชิงการเงินของพรีเมียร์ลีก (Premier League) แม้ว่าบางส่วนของกฎถูกตัดสินว่าไม่ถูกต้อง แต่โดยรวมแล้วกฎ APT ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตทางการเงิน

คำตัดสินครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งทั้งสโมสรและพรีเมียร์ลีกจำเป็นต้องหาวิธีในการรักษาความสมดุลและความโปร่งใสในธุรกรรมทางการค้า

บูกาโย่ ซาก้า เชื่อมั่น: ปีนี้คือปีที่ใช่สำหรับอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

บูกาโย่ ซาก้า เชื่อมั่น: ปีนี้คือปีที่ใช่สำหรับอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) กองหน้าดาวรุ่งของอาร์เซนอล (Arsenal) ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า ฤดูกาลนี้จะเป็นปีที่ทีมปืนใหญ่จะสามารถยุติการรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ยาวนานกว่า 21 ปี หลังจากที่พวกเขาจบอันดับสองตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) สองฤดูกาลติดต่อกัน และยังไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเลยตั้งแต่ปี 2004 ในยุคของทีมไร้พ่ายภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ (Arsène Wenger)

ปัจจุบัน อาร์เซนอลอยู่ในอันดับที่สามของตาราง มีคะแนนเท่ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่อันดับสอง และตามหลังลิเวอร์พูล (Liverpool) เพียงหนึ่งคะแนน หลังจากการแข่งขันไปแล้วหกเกม ทำให้การลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ยังคงเปิดกว้าง และเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของแฟนบอลอาร์เซนอลทั่วโลก

ความเชื่อมั่นของซาก้าในการคว้าแชมป์

ซาก้า (Saka) ได้เปิดเผยความรู้สึกของเขาผ่านทาง CBS Sports โดยกล่าวว่า “ผมไม่อยากกดดันพวกเรามากเกินไป แต่ผมเชื่อว่านี่คือปีที่อาร์เซนอลจะคว้าแชมป์ได้” เขาได้เสริมอีกว่า ทีมได้ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์มาแล้วในสองปีที่ผ่านมา และในปีนี้พวกเขาเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความหวังของเขาคือการคว้าถ้วยแชมป์ให้ได้ในฤดูกาลนี้

ซาก้าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จของทีมในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา เขาได้แสดงฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในเกมรุกหรือเกมรับ ความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำของเขาทำให้เขากลายเป็นนักเตะสำคัญที่อาร์เซนอลขาดไม่ได้

แรงผลักดันจากความผิดหวังในอดีต

นอกจากการเป็นกำลังสำคัญของอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีกแล้ว ซาก้า (Saka) ยังเป็นหนึ่งในนักเตะของทีมชาติอังกฤษ (England) ที่ประสบกับความผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศของศึกยูโร (UEFA European Championship) สองครั้งติดต่อกันในปี 2021 และ 2024 ซึ่งทั้งสองครั้งทีมชาติอังกฤษพ่ายแพ้ และทำให้เขามีความมุ่งมั่นมากขึ้นที่จะคว้าชัยชนะในฤดูกาลนี้

ซาก้าได้กล่าวถึงความผิดหวังนั้นกับ Amazon Prime ว่า “ในหลายปีที่ผ่านมา ผมได้รองแชมป์มาเยอะมาก มันเป็นแรงผลักดันในตัวผมที่ต้องการจะชนะในฤดูกาลนี้ ผมเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อในทีมของเรา”

อาร์เซนอลพิสูจน์ศักยภาพในแชมเปียนส์ลีก

นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว อาร์เซนอลยังทำผลงานได้ดีในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) ซึ่งชัยชนะ 2-0 เหนือปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถต่อสู้กับทีมชั้นนำของยุโรปได้อย่างสูสี

ซาก้าได้กล่าวหลังจบเกมว่า “เราแสดงให้เห็นแล้วในเกมกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ว่าเราสามารถทำได้ ผมบอกกับเพื่อนร่วมทีมว่าเราต้องทำให้ได้เมื่อเจอกับทีมใหญ่ที่มาเยือนสนามเอมิเรตส์ (Emirates Stadium)”

ในท้ายที่สุด ความมุ่งมั่นของซาก้าและทีมอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังจากที่รอคอยมานานกว่า 21 ปี

หากคุณต้องการติดตาม ผลบอลสดsbobet เพื่อดูผลการแข่งขันฟุตบอลแบบเรียลไทม์ คุณสามารถเข้าชมผ่านเว็บไซต์ได้ทันที เว็บไซต์ ผลบอลสดsbobet มีการอัปเดตผลการแข่งขันจากลีกทั่วโลกอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ศักยภาพของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่อาจส่งผลต่อความหวังของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก

ศักยภาพของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่อาจส่งผลต่อความหวังของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก

ศักยภาพของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (Harvey Elliott) ที่อาจส่งผลต่อความหวังของลิเวอร์พูล (Liverpool) ในพรีเมียร์ลีก (Premier League)

ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ นักเตะดาวรุ่งของลิเวอร์พูล กำลังเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลสำคัญภายใต้การนำของกุนซือคนใหม่อย่าง อาร์เน สลอตต์ (Arne Slott) ขณะที่หงส์แดงกำลังสร้างทีมขึ้นมาใหม่หลังจากผ่านการฝึกซ้อมก่อนฤดูกาล เอลเลียตต์ก็ดูเหมือนจะได้รับบทบาทที่สำคัญมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะมีอิทธิพลต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูล วันเสาร์จะมีการแข่งขันแนะนำ สมัคร sbobet ได้

แม้อายุเพียง 21 ปี เอลเลียตต์ก็ได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งสุขและทุกข์ในอาชีพการเล่นของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างรุนแรงในปี 2021 อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ของเขาก็เปล่งประกายออกมา โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูกาล 2023-24 ที่เขาทำได้ 3 ประตูและ 6 แอสซิสต์ ตอนนี้ในขณะที่เขากำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่สามกับทีมชุดใหญ่ เอลเลียตต์ก็พร้อมที่จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น

แนวทางการเล่นของสลอตต์อาจเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบสำหรับเอลเลียตต์ในการเปล่งประกาย ในระหว่างการเตรียมตัวก่อนฤดูกาล เอลเลียตต์ได้ถูกใช้งานในตำแหน่งหมายเลข 10 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับสัญชาตญาณการสร้างสรรค์เกมรุกของเขา การเปลี่ยนตำแหน่งจากฝั่งซ้ายของแดนกลาง ซึ่งเขามักจะเล่นภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) มาสู่ตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางมากขึ้น อาจเป็นการปลดล็อกศักยภาพของเขาได้อย่างเต็มที่ เอลเลียตต์เองก็ได้แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับสไตล์การเล่นของสลอตต์ที่เน้นการครองบอลและการสร้างสรรค์เกม ซึ่งบ่งบอกว่าทีมกำลังรอคอยที่จะใช้แผนการเหล่านี้ในเกมการแข่งขันจริง จะเริ่มขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้ สมัคร sbobet รอไว้ได้เลย

การมีบทบาทมากขึ้นของเอลเลียตต์เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญสำหรับลิเวอร์พูลที่กลับมาสู่เวทีแชมเปียนส์ลีกพร้อมกับทีมที่ค่อนข้างคงตัว การเตรียมตัวก่อนฤดูกาลนี้ยังได้มอบโอกาสให้เอลเลียตต์ได้สร้างความประทับใจอย่างมาก โดยเฉพาะในขณะที่เพื่อนร่วมทีมบางคน เช่น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (Alexis Mac Allister) กำลังเข้าร่วมทีมช้ากว่าเนื่องจากภารกิจในระดับนานาชาติ ทำให้เอลเลียตต์มีโอกาสได้ฉายแสงและสร้างตำแหน่งในทีมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ประสบการณ์ของเอลเลียตต์ในฐานะอดีตนักเตะเยาวชน ยังทำให้เขามีบทบาทเป็นพี่เลี้ยงให้กับนักเตะดาวรุ่งที่กำลังขึ้นมา ซึ่งสามารถช่วยรักษาสปิริตและความสามัคคีในทีมลิเวอร์พูลได้อย่างดี อดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง ลูคัส เลว่า ก็ได้เน้นถึงศักยภาพของเอลเลียตต์ที่อาจมีบทบาทสำคัญในฤดูกาลนี้ หากเขายังคงรักษาความฟิตได้

ในขณะที่ลิเวอร์พูลมุ่งมั่นที่จะแย่งชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ การพัฒนาของเอลเลียตต์อาจเป็นปัจจัยสำคัญ หากเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้ต่อเนื่องจากปลายฤดูกาลที่แล้ว กองกลางหนุ่มคนนี้อาจกลายเป็นส่วนสำคัญของลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของสลอตต์ ในการไล่ล่าความสำเร็จทั้งในประเทศและในยุโรป ฝากกันไว้ด้วย สมัคร sbobet ติดต่อทางเราได้

 

ลีกยุโรปเตรียมฟ้องฟีฟ่า เรื่อง “การใช้อำนาจเกินขอบเขต”

ลีกยุโรปเตรียมฟ้องฟีฟ่า เรื่อง “การใช้อำนาจเกินขอบเขต”

ลีกชั้นนำของยุโรป รวมถึงพรีเมียร์ลีก และสหภาพนักฟุตบอลโลก (Fifpro) กำลังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Fifa) โดยกล่าวหาว่าฟีฟ่ามีการ “ใช้อำนาจเกินขอบเขต” ในวงการฟุตบอล การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากลีกและสหภาพนักฟุตบอลที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกมที่เพิ่มขึ้นในปฏิทินการแข่งขันและผลกระทบต่อนักเตะ วันนี้ SoccersvNews เว็ปไซต์รายงาน ทีเด็ด บอล sbobet ได้รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้ทุกท่านได้อ่านแล้ว

การฟ้องร้องและสาเหตุ

กลุ่ม European Leagues ซึ่งเป็นตัวแทนของ 39 ลีกและ 1,130 สโมสรใน 33 ประเทศ ระบุว่าจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อปกป้องสวัสดิการของนักเตะ การดำเนินการทางกฎหมายนี้มุ่งเน้นไปที่การป้องกันไม่ให้ฟีฟ่าเพิ่มจำนวนการแข่งขันในปฏิทินการแข่งขัน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของนักเตะ

แถลงการณ์ของ Fifpro ระบุว่าปฏิทินการแข่งขันระหว่างประเทศ “เกินขีดจำกัด” เป็น “ภัยคุกคามต่อสุขภาพของนักเตะ” และ “ไม่ยั่งยืนสำหรับลีกในประเทศ” Fifpro กล่าวว่าการตัดสินใจของฟีฟ่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเอื้อประโยชน์ต่อการแข่งขันและผลประโยชน์ทางการค้าของตัวเอง ละเลยความรับผิดชอบในฐานะองค์กรกำกับดูแล และทำลายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของลีกในประเทศและสวัสดิการของนักเตะ

ฟีฟ่าตอบโต้

ฟีฟ่าตอบโต้การดำเนินการทางกฎหมายนี้ โดยกล่าวหาบางลีกว่า “หน้าซื่อใจคด” เนื่องจากส่งนักเตะไปทัวร์ฤดูกาลก่อนทั่วโลก โฆษกฟีฟ่ากล่าวว่าปฏิทินปัจจุบันได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์โดยสภาฟีฟ่า ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากทุกทวีป รวมถึงยุโรป หลังจากการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมและมีส่วนร่วม ซึ่งรวมถึง Fifpro และองค์กรลีกต่างๆ

“ปฏิทินกีฬาของฟีฟ่าเป็นเครื่องมือเดียวที่รับประกันว่าฟุตบอลระหว่างประเทศจะสามารถอยู่รอด อยู่ร่วม และเจริญรุ่งเรืองควบคู่ไปกับฟุตบอลระดับสโมสรในประเทศและทวีปได้” โฆษกฟีฟ่ากล่าว “ลีกบางแห่งในยุโรป – ซึ่งตนเองเป็นผู้จัดการแข่งขันและผู้ควบคุมกฎระเบียบ – กำลังดำเนินการด้วยผลประโยชน์ทางการค้า หน้าซื่อใจคด และไม่มีการพิจารณาถึงผู้อื่นในโลก”

ฟีฟ่าระบุว่าลีกเหล่านั้นดูเหมือนจะชอบปฏิทินที่เต็มไปด้วยแมตช์กระชับมิตรและทัวร์ฤดูร้อน ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางทั่วโลกที่ยาวนาน โดยตรงกันข้าม ฟีฟ่าต้องปกป้องผลประโยชน์โดยรวมของฟุตบอลโลก รวมถึงการปกป้องนักเตะในทุกระดับของเกม

การศึกษาเกี่ยวกับจำนวนการแข่งขัน

จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้โดย CIES Football Observatory ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ International Centre for Sports Studies พบว่าจำนวนการแข่งขันของสโมสรต่อฤดูกาลไม่ได้เพิ่มขึ้น รายงานพบว่าระหว่างปี 2012 ถึง 2024 จำนวนการแข่งขันเฉลี่ยต่อสโมสรและฤดูกาลอยู่ที่เพียงกว่า 40 นัด โดยมีประมาณ 5% ของสโมสรที่เล่น 60 นัดขึ้นไปต่อฤดูกาล ไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสัดส่วนของสโมสรที่เล่น 60 นัดขึ้นไป

การฟ้องร้องอื่นๆ

การดำเนินการทางกฎหมายของ European Leagues เป็นครั้งที่สองในรอบสองเดือนต่อฟีฟ่า PFA เป็นผู้ร้องร่วมกับสหภาพนักเตะฝรั่งเศสและอิตาลีในคดีที่ยื่นต่อศาลการค้าบรัสเซลส์ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานยุโรปของ Fifpro คดีนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นกฎหมายแรงงาน วิธีที่ฟีฟ่าจัดการปฏิทิน การแนะนำการแข่งขันใหม่ และวิธีที่พวกเขาขัดแย้งกับสิทธิการจ้างงานของนักเตะ

“ฟีฟ่ามีบทบาทสองอย่างทั้งในฐานะผู้กำกับดูแลระดับโลกของฟุตบอลและผู้จัดการแข่งขัน” Fifpro กล่าว “สิ่งนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์”

สรุป

การดำเนินการทางกฎหมายครั้งนี้เป็นความพยายามของลีกยุโรปและสหภาพนักเตะในการปกป้องสุขภาพและสวัสดิการของนักเตะ ในขณะเดียวกัน ฟีฟ่าก็ยืนยันว่าการตัดสินใจของตนมีความจำเป็นในการปกป้องผลประโยชน์ของฟุตบอลโลก ความขัดแย้งนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนและความท้าทายในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่งมีการต่อสู้กันระหว่างผลประโยชน์ขององค์กรต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ขอบคุณ SoccersvNews เว็ปไซต์อัพเดท ทีเด็ด บอล sbobet และข่าวสาวกีฬารอบโลก