โอลโม่ติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังลาลีกาและสมาคมฟุตบอลสเปนปฏิเสธการขึ้นทะเบียนให้บาร์ซ่า

โอลโม่ติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังลาลีกาและสมาคมฟุตบอลสเปนปฏิเสธการขึ้นทะเบียนให้บาร์ซ่า

องค์กรฟุตบอลของประเทศ สเปน ได้ปฏิเสธความพยายามของ บาร์เซโลน่า ในการขึ้นทะเบียนกองกลาง ดานี่ โอลโม่ (Dani Olmo) และกองหน้า เปา วิคเตอร์ (Pau Victor) สำหรับช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล นักเตะที่เซ็นสัญญาในช่วงซัมเมอร์ทั้งสองคนได้รับการขึ้นทะเบียนเพียงถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดเพดานเงินเดือนของการแข่งขัน ทั้งสองคนอาจต้องพักการลงเล่นจนถึงช่วงซัมเมอร์ โดยอาชีพของพวกเขาต้องหยุดชะงัก ในขณะที่มีข่าวลือเมื่อเร็วๆ นี้ว่า โอลโม่ ที่มีทีมให้ความสนใจมากมายอาจจะย้ายออกจากสโมสร โอลโม่ วัย 26 ปี เป็นตัวหลักในทีมของ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาร์บี ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวประมาณ 51 ล้านปอนด์ หลังจากช่วยให้ สเปน คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่วน วิคเตอร์ อดีตนักเตะ จิโรน่า วัย 23 ปี ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองเกือบทั้งหมดใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้

แถลงการณ์ร่วมจาก สมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลา ลีกา ยืนยันว่าพวกเขาปฏิเสธคำขอของ บาร์เซโลน่า ในการขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองคน

RFEF และ ลา ลีกา ระบุว่าทั้งสององค์กรพอใจกับสถานะการเงินที่ดีขึ้นของสโมสรหลังจากความพยายามล่าสุดในการระดมทุน อย่างไรก็ตาม กฎของลีกระบุว่าสโมสรเดียวกันไม่สามารถขึ้นทะเบียนนักเตะซ้ำในฤดูกาลเดียวกันที่การขึ้นทะเบียนถูกยกเลิก ตามแถลงการณ์ร่วม คำขอของ บาร์เซโลน่า ทางเข้าสโบ ในการขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองคนก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธโดยศาลสองแห่ง สื่อ สเปน รายงานว่า บาร์เซโลน่า ยังคงวางแผนที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน เพื่อขอขยายการขึ้นทะเบียนของนักเตะ แม้ว่าสโมสรยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลล่าสุด บาร์เซโลน่า อยู่อันดับ 3 ใน ลา ลีกา ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด 5 คะแนน 

 

วิกฤตการณ์การขึ้นทะเบียนนักเตะของ บาร์เซโลน่ กรณี โอลโม่ และ วิคเตอร์

บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอล สเปน กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ในการบริหารจัดการทีม เมื่อความพยายามในการขึ้นทะเบียนนักเตะสองรายสำคัญ ดานี่ โอลโม่ (Dani Olmo) และ เปา วิคเตอร์ (Pau Victor) สำหรับช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2024-25 ถูกปฏิเสธโดยทั้ง สมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลา ลีกา

สถานการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การเซ็นสัญญาในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา เมื่อ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจทุ่มทุนครั้งใหญ่เพื่อคว้าตัว โอลโม่ จาก อาร์บี ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวสูงถึง 51 ล้านปอนด์ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการพา ทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2024

ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) โอลโม่ วัย 26 ปี ทางเข้าสโบ ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุน ในขณะที่ เปา วิคเตอร์ อดีตดาวรุ่งจาก จิโรน่า วัย 23 ปี แม้จะได้โอกาสลงสนามน้อยกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามอง

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านเพดานเงินเดือนของ ลา ลีกา ทำให้ บาร์เซโลน่า สามารถขึ้นทะเบียนนักเตะทั้งสองได้เพียงถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออนาคตของทั้งสองนักเตะ โดยเฉพาะ โอลโม่ ที่มีข่าวลือเกี่ยวกับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำของ ยุโรป

แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะพยายามปรับปรุงสถานะทางการเงินของสโมสร จนได้รับการยอมรับจากทั้ง RFEF และ ลา ลีกา แต่กฎระเบียบของลีกที่ห้ามขึ้นทะเบียนนักเตะซ้ำในฤดูกาลเดียวกันที่การขึ้นทะเบียนถูกยกเลิก กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ การอุทธรณ์ต่อศาลสองครั้งก็ไม่เป็นผล ทำให้สโมสรต้องพิจารณาทางเลือกสุดท้ายด้วยการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน

ผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลต่อตัวนักเตะเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความหวังในการไล่ล่าแชมป์ ลา ลีกา ของ บาร์เซโลน่า ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด อยู่ 5 คะแนน การสูญเสียนักเตะคุณภาพอย่าง โอลโม่ และ วิคเตอร์ อาจส่งผลต่อความลึกของขุมกำลังในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

สถานการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารจัดการทางการเงินของสโมสรฟุตบอลภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดของ ลา ลีกา และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการวางแผนในอนาคต การตัดสินใจของ บาร์เซโลน่า ในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล สเปน แสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งสุดท้ายในการแก้ไขสถานการณ์ แม้ว่าโอกาสความสำเร็จอาจจะไม่สูงนัก

ฟลิค รีบเบรค อย่าเพิ่งยก บาร์เซโลน่า เต็งแชมป์ ย้ำฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล ยังมีเกมยากๆ อีกมากมาย แม้เวลานี้ ทีมจะอยู่ในช่วงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมก็ตาม

ฟลิค รีบเบรค อย่าเพิ่งยก บาร์เซโลน่า เต็งแชมป์ ย้ำฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล ยังมีเกมยากๆ อีกมากมาย แม้เวลานี้ ทีมจะอยู่ในช่วงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมก็ตาม

จากผลงานระดับมาสเตอร์พีชที่ทีม บาร์เซโลน่า (Barcelona) บุกไปกระซวกไส้ รีล มาดริด (Real Madrid) มาได้ถึง 4-0 ที่ ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว ทำให้หลายๆ ฝ่ายต่างพูดถึงและยกให้ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  กลายเป็นเต็ง1 เต็งแชมป์ ของลาลีกา ฤดูกาลนี้ไปเสียแล้ว ปัจจุบัน บาร์เซโลน่า (Barcelona)  นั้น เก็บชัยชนะไปได้ถึง 10 จาก 11 นัด แพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น และมันก็ทำให้พวกเขา ทิ้งห่างคู่แข่งในการลุ้นแชมป์ อย่าง รีล มาดริด (Real Madrid) ไปถึง 6 คะแนนแล้ว ในเวลานี้ สัปดาห์นี้ รีล มาดริด (Real Madrid) ไม่มีแข่งเนื่องจากว่าเกมที่ต้องไปเยือน บาเลนเซีย (Valencia) นั้นถูกเลื่อนไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากที่ บาเลนเซีย (Valencia) ดนน้ำท่วมหนักถือเป็นภัยพิบัติ ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มีคนผู้เสียชีวิต เฉียดร้อยคนไปแล้ว และนั่นทำให้หากว่า บาร์เซโลน่า (Barcelona) เก็บชัยชนะในสัปดาห์นี้ได้พวกเขาจะขึ้นนำหนีห่าง รีล มาดริด (Real Madrid) ไปเป็น 9 คะแนน ทันที อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ฮานซี่ ฟลิค (Hansi Flick) ก็ออกมาเบรค แฟนบอล รวมถึงบรรดาสายข่าวต่างๆ ไว้ก่อนว่า ฤดูกาลนี้ มันยังมีอีกยาวไกล ยังมีโปรแกรมยากๆ อีกหลายเกมให้พวกเราต้องเล่น ดังนั้น อย่าเพิ่ง ยกพวกเราเป็นเต็งแชมป์ ไว้ค่อยมาดูกันหลังจากจบ เลกแรกไปแล้ว  ว่าเราจะยังแข็งแกร่งต่อไปหรือไม่

 

สัปดาห์ บาร์เซโลน่า ต้องลงทำศึก คาตาลัน ดาร์บี้ กับ เอสปันญ่อล เป็นอีกเกมทที่สำคัญมากๆ ประวัติศาสตร์เรื่องราวต่างๆ เหตุการณ์ต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้มากมายในเกมเช่นนี้

 

ในช่วงของคืนวันอาทิตย์นี้ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  มีคิว เปิดรัง เอสตาดิโอ โอลิมปิโก้ หลุยส์ คอมปานิส หรือชื่อเดิม คือ โอลิมปิโก้ เด มอนจูอิก สนามที่ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  นั้นใช้ชั่วคราวระหว่างรอ คัมป์นู ปรับปรุงเสร็จสิ้น ซึ่งสนามนี้ นอกจากจะเคยใช้ในช่วง โอลิมปิค ที่ สเปนเป็นเจ้าภาพแล้ว ยังเคยเป็นรังเหย้า เก่า ของ เอสปันญ่อล (RCD Espanyol) อีกด้วย ซึ่งใช้งานในช่วง ปี 1997-2009 แน่นอนว่าเกม ดาร์บี้แมตช์แบบนี้ คงจะยอมกันไม่ได้แม้ว่าที่ผ่านมาเรื่องของความสำเร็จนั้น จะเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยก็ตาม เชื่อว่า เกมนี้ เอสปันญ่อล (RCD Espanyol) หวังเก็บเพียงแค่ 1 คะแนน ก็จะถือได้ว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว จุดเด่นสำคัญของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) โดยเฉพาะ ในเกมพบ รีล มาดริด (Real Madrid) คือการดันไลน์สูงแล้วเช็คล้ำหน้าได้อย่างแม่นยำ สมัคร สโบเบ็ต ทำให้เกมนั้น รีล มาดริด (Real Madrid) นั้นล้ำหน้าไปถึง 12 ครั้งเลยทีเดียวในเกมนั้น ถือเป็นทีเด็ดในเกมรับแถมเกมรุกก็ดุดันไล่ยิงคู่แข่งกระจุยกระจายมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ทีม เจ้านกแก้ว ต้องระวังให้ดี ออกสตาร์ท ฤดูกาลนี้มา มีเกมที่ เอสปันญ่อล (RCD Espanyol) นั้น สร้างผลงานได้ดีกับทีมใหญ่ก็คือ การเจอกับ แอต มาดริด ที่สามารถบุกไปเสมอมาได้ 0-0 ถึงถิ่นของ ทีมตราหมีเลยทีเดียว ในเกม คาตาลัน ดาร์บี้ นี้ถือเป็นครั้งที่ 177 ต้องรอดูกันว่า ทีมใดจะมีชัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้า บาร์เซโลน่า (Barcelona) เอาชนะได้สำเร็จ จะทิ้งห่าง รีล มาดริด (Real Madrid) ไปถึง 9 คะแนนเลยทีเดียว

 

สื่อเผย บาร์ซ่า ต้องขอบคุณ ชาบี้ เพราะถือเป็นคนสำคัญ ที่ทำให้ ลามีน ยามาล ดาวรุ่งวัย 17 ปี ไม่ย้ายหนีไป ปารีส แซงต์ แชร์กเมง ในช่วงที่เขาอายุ 15

 

แน่นอนว่านักเตะคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  ในชั่วโมงนี้ก็คือ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ดาวเตะวัย 17 ปีที่ถือได้ว่าเป็นดาวเตะแห่งอนาคตของ วงการฟุตบอล ในเวลานี้ สมัคร สโบเบ็ต เด็กวัย 17 ปีที่เพิ่งจะสร้างสถิติ นักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ยิงได้ในศึก เอลกราซิโก้ ครั้งที่ผ่านมา  มีการเปิดเผยออกมาจากสื่อดังอย่าง มุนโด้ เดปอร์ติโว่ ว่า ชาบี เฮอร์นานเดซ (Xavi Hernandez) อดีตกุนซือของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) นั้น ถือได้ว่าเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการที่รั้ง ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) เอาไว้กับทีม ไม่ให้ย้ายไปยังทีมดังแดนน้ำหอม อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) ในช่วงที่ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) อายุ 15 ปี ในเวลานั้น เอเยนต์ ของดาวรุ่งผู้นี้ได้รับการติดต่อจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) แต่ ชาบี เป็นคนที่แจ้งกับทาง ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ว่าอย่าย้ายไปไหน เขาจะให้โอกาสในการเดบิวต์ ทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า แก่เขาถ้าเขาเลือกจะอยู่กับ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  ต่อไป และเขาก็ได้ทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้ในที่สุด ด้วยการส่ง ลามีน ยามาล  (Lamine Yamal)  ลงเล่นในเกมพบ รีล เบติส ในช่วง 7 นาทีสุดท้าย ซึ่งนั่นก็ทำให้ เขากกลายเป็น นักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลงเล่นใน ลาลีกา ด้วยอายุเพียงแค่ 15 ปี 9 เดือน กับอีก 16 วันเท่านั้น

สเปนคว้าแชมป์ยูโร 2024 หลังเฉือนชนะอังกฤษ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ

สเปนคว้าแชมป์ยูโร 2024 หลังเฉือนชนะอังกฤษ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ

สเปน สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูโรเป็นสมัยที่ 4 หลังเอาชน ะอังกฤษ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย นิโก้ วิลเลียมส์ (Nico Williams) ทำประตูให้ สเปน ขึ้นนำในนาทีที่ 47 ก่อนที่ โคล พาล์มเมอร์ (Cole Palmer) ตัวสำรองของ อังกฤษ จะยิงตีเสมอในนาทีที่ 67 แต่สุดท้าย มิเกล โอยาร์ซาบัล (Mikel Oyarzabal) ทำประตูชัยให้ สเปน ในนาทีที่ 86 ส่งผลให้ อังกฤษ ต้องพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ยูโร เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน

การควบคุมเกมของ สเปน

สเปน แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในการครองบอลและสร้างแรงกดดันตลอดทั้งเกม แม้จะเสีย โรดรี้ (Rodrigo) กองกลางตัวเก่งไปตั้งแต่ครึ่งแรก แต่พวกเขาก็ยังสามารถเปิดสกอร์ได้อย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง จากจังหวะที่ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) วัย 16 ปี สร้างสรรค์โอกาสให้กับ นิโก้ วิลเลียมส์ ยิงเข้าประตู

การตอบโต้ของ อังกฤษ

อังกฤษ พยายามกลับมาในเกมหลังจากเสียประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) ตัดสินใจเปลี่ยนตัว แฮร์รี่ เคน (Harry Kane) กัปตันทีมที่ทำผลงานได้ไม่ดีนักออก และส่ง โคล พาล์มเมอร์ (Cole Palmer) ลงสนาม ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อ พาล์มเมอร์ สามารถยิงประตูตีเสมอได้อย่างสวยงามจากการจ่ายบอลของ จูด เบลลิงแฮม (Jude William)

จุดเปลี่ยนสำคัญของเกม

แม้ว่า อังกฤษ จะดูเหมือนจะได้แรงฮึดหลังจากตีเสมอได้ แต่สเปนก็ยังคงกดดันต่อเนื่อง โดย จอร์แดน พิคฟอร์ด (Jordan Pickford) ผู้รักษาประตูของ อังกฤษ ต้องเซฟลูกยิงของ ยามาล อย่างยอดเยี่ยมถึงสองครั้งในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาเหลืออีกเพียง 4 นาที มิเกล โอยาร์ซาบาล ก็สามารถยิงประตูชัยให้กับ สเปน ได้สำเร็จ จากการครอสของ มาร์ค คูคูเรยา (Marc Cucurella)
อังกฤษ พยายามที่จะตีเสมออีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดย เดคลาน ไรซ์ (Declan Rice) มีโอกาสยิงจากลูกเตะมุม แต่ อูไน ซิมอน (Unai Simón) ผู้รักษาประตูของ สเปน ก็สามารถป้องกันไว้ได้ และถึงแม้ว่า มาร์ก กุเอฮี (Marc Guehi) จะโหม่งบอลเข้าไปใกล้เส้นประตู แต่ ดานี่ โอลโม่ (Daniel Olmo) ก็สามารถเคลียร์บอลออกไปได้ทัน ทำให้สุดท้ายแล้ว สเปน ก็รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้จนจบเกม

ผลกระทบต่ออนาคตของทีมชาติ อังกฤษ

การพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ทำให้ อังกฤษ ต้องรอคอยถ้วยรางวัลใหญ่ต่อไปอีก โดยเมื่อถึงฟุตบอลโลก 2026 พวกเขาจะไม่ได้คว้าแชมป์รายการใหญ่มาแล้วถึง 60 ปี ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล อังกฤษ เป็นอย่างมาก

อนาคตของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

หลังจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ มีคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของ แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) ในฐานะผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ แม้ว่าเขาจะทำผลงานได้ดีในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของทีมชาติ อังกฤษในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา แต่การพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศครั้งที่สองติดต่อกันอาจทำให้เขาต้องทบทวนอนาคตของตัวเอง

ความคิดเห็นของผู้เล่น

เดคลาน ไรซ์ กล่าวหลังจบเกมว่า “เรารักผู้จัดการทีม แต่มันเป็นการตัดสินใจของเขา (ว่าจะอยู่ต่อหรือไม่) ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้ มันขึ้นอยู่กับเขา เขาจะไปคิดทบทวนเอง แต่ตอนนี้พวกเราทุกคนแค่รู้สึกเจ็บปวด การแพ้ในรอบชิงชนะเลิศมันเจ็บปวดที่สุดแล้ว เราทำได้ดีมากที่กลับมาตีเสมอได้ แต่เราไม่สามารถใช้แรงผลักดันนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ เราไม่สามารถรักษาบอลไว้ได้ดีพอและถูกลงโทษ มันเจ็บปวดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการแข่งขันฟุตบอล”
สรุปแล้ว การแข่งขัน ยูโร 2024 จบลงด้วยชัยชนะของสเปน ในขณะที่ อังกฤษ ต้องเผชิญกับความผิดหวังอีกครั้ง การพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทีมชาติ อังกฤษ ทั้งในแง่ของผู้เล่นและทีมงานผู้ฝึกสอน แฟนบอลอังกฤษคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า ทีมรักของพวกเขาจะสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้เมื่อไหร่

สำหรับผู้ที่สนใจในการ สมัครเว็บบอล เพื่อติดตามและร่วมสนุกกับการแข่งขันฟุตบอลที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้การ สมัครเว็บบอล ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวและโอกาสในการเข้าร่วมเดิมพันกับทีมที่คุณชื่นชอบ

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

ในศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศระหว่างทีมชาติ สเปน (Spain) กับทีมชาติ ฝรั่งเศส (France) ทีมชาติสเปนได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสด้วยสกอร์ 2-1 โดยในเกมนี้มีผู้เล่นหลายคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่ ที่ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติสเปนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ วันนี้เว็ป แทงบอลสโบเบต จะมาตัดเกรดผลงานนักของ ทีมชาติสเปน ให้ทุกคนได้ทราบ

ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) : 8.5

ลามีน ยามาล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ โดยเขาทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับทีมชาติสเปนด้วยการซัดไกลสุดงาม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรที่ยิงประตูได้ ฟอร์มของเขาในครึ่งแรกถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่ได้ครองบอลสามารถปั่นป่วนเกมรับของฝรั่งเศสได้ตลอดเวลา แม้ในครึ่งหลังฟอร์มจะดร็อปลงไปเล็กน้อยเนื่องจากทีมเน้นการรักษาสกอร์ แต่ผลงานโดยรวมของเขานับว่าน่าประทับใจมาก

ดานี่ โอลโม่ (Daniel Olmo) : 8.5

ดานี่ โอลโม่ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมนี้ เขามีส่วนสำคัญกับการทำประตูชัยของทีม ด้วยการโชว์ทักษะเหนือชั้นในการกระดกบอลหลบแนวรับของฝรั่งเศส ก่อนที่จะซัดเต็มข้อบอลแฉลบ ชูลส์ กุนเด้ เข้าประตูไป นอกจากการทำประตูแล้ว โอลโม่ยังมีการครองบอลที่ดี และการผ่านบอลที่แม่นยำ ทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของสเปน

อูไน ซิม่อน (Unai Simón) : 6.5

อูไน ซิม่อน ไม่สามารถป้องกันจังหวะเสียประตูแรกได้ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถยกระดับฟอร์มขึ้นมาได้เรื่อย ๆ โดยมีการยืนตำแหน่งที่ดีทำให้สามารถป้องกันลูกยิงของฝรั่งเศสได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังเล่นด้วยความนิ่งและมีวินัยในการทำหน้าที่ของตัวเอง

เฆซุส นาบาส (Jesús Navas) : 5.5

เฆซุส นาบาส แม้จะอายุ 38 ปี แต่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นเกม โดยการสู้กับ เอ็มบัปเป้ แต่ในช่วงต่อมาเขาไม่สามารถตัดบอลจาก เอ็มบัปเป้ ที่เปิดบอลให้ โกโล่ มูอานี่ ทำประตูนำ 1-0 หลังจากนั้น นาบาสก็โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์แนวรุกของฝรั่งเศส ก่อนที่จะบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออก

นาโช่ เฟร์นานเดซ (Nacho Fernández) : 6

นาโช่ เฟร์นานเดซ ต้องเจอกับความยากลำบากในการรับมือกับ โกโล่ มูอานี่ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และในครึ่งหลังต้องสู้กับ บาร์กโกล่า ที่ทั้งเร็วและแข็งแกร่ง แต่ก็ยังพอเอาตัวรอดมาได้

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (Aymeric Laporte) : 6.5

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ พลาดท่าให้ โกโล่ มูอานี่ ขึ้นโขกทำประตูแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถระเบิดฟอร์มขึ้นมาได้ และเล่นได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับ

มาร์ก กูกูเรย่า (Marc Cucurella) : 7

มาร์ก กูกูเรย่า สามารถสู้กับความรวดเร็วและคล่องตัวของ อุสมาน เดมเบเล่ ได้ดีเยี่ยม ทำให้ เดมเบเล่ ไม่สามารถเล่นได้ตามที่ต้องการ และยังทำเกมรุกได้โดดเด่นโดยวิ่งเติมเกมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นอกจากนี้ยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นและสกัดบอลแม่นยำ

โรดรี้ (Rodri) : 7.5

โรดรี้ ทำหน้าที่ในการเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง และยังครองบอลเหนียวแน่น รวมทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำ ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิสำหรับการทำหน้าที่ของมิดฟิลด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้

ฟาเบียน รุยซ์ (Fabián Ruiz) : 7

ฟาเบียน รุยซ์ มีโอกาสโหม่งทำประตูในช่วงต้นเกม แต่บทบาทในแดนกลางโดดเด่นมาก โดยเขาคอยเชื่อมเกมและคุมจังหวะการเล่น ทำให้แผงมิดฟิลด์ของสเปนเหนือกว่าฝรั่งเศส

อัลบาโร่ โมราต้า (Álvaro Morata) : 6

อัลบาโร่ โมราต้า แม้จะไม่ได้โดดเด่นในจังหวะเกมรุก แต่มีส่วนช่วยเกมรับของทีมเยอะมาก โดยพยายามลงไปเล่นลึก และหาจังหวะเปิดบอลยาวให้ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ได้ใช้ความเร็วเล่นงานเกมรับคู่แข่ง

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ (Nico Williams): 7

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา แต่ความเร็วของเขายังเป็นอันตรายมาก โดยในช่วงต้นครึ่งหลังเขาโชว์สปีดฉีกหนี ชูลส์ กุนเด้ แต่ไม่น่าเสียดายที่ ไมค์ เมนญอง วิ่งออกมาตัดบอลได้ทัน

ผู้เล่นสำรองที่ลงสนามก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะ ดาเนียล บีเบียน ที่ลงมาช่วยทำให้เกมรับของสเปนแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วน มิเกล เมริโน่ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีในการประสานงานในแดนกลางและแดนหน้า

 

ในภาพรวม ทีมชาติสเปนแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศส ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจากเว็ป แทงบอลสโบเบ็ต เว็ปเก็บสถิติข้อมูลกีฬาชื่อดัง