ภาคต่อแห่งความฝันของ อลัน เชียเรอร์

ภาคต่อแห่งความฝันของ อลัน เชียเรอร์

อลัน เชียเรอร์
อลัน เชียเรอร์

เมื่อครั้งวัยเด็ก ฝันของอลัน เชียร์เรอร์ ก็เหมือนกับเด็กชาวจอร์ตี้ธรรมดาๆทั่วๆไป นั่นคือการเป็นนักเตะรับใช้สโมสรบ้านเกิดนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยามใดที่เขาไม่ได้ลงเล่นให้ทีมเยาวชนนิวคลาสเซิ่ล, วอลล์เซนด์บอยส์ คลับ หรือแครมลิงตัน จูเนียร์ส สถานที่แห่งเดียวที่เขาชอบไปเป็นประจำคือเซนต์ เจมส์ ปาร์ก เพื่อชมนักเตะขวัญใจ เควิน คีแกน ลงเตะให้ทีม เดอะ แม็กพายส์แมวมองจากสโมสรต่างๆในฟุตบอลลีก ผลัดเปลี่ยนมาปรากฎตัวเพื่อดูขาลงสนาม แต่ชื่อของอลัน เชียเรอร์ ก็ไม่ได้เตะตาเหมือนดาวรุ่งบางคน มีเพียงแมนเซสเตอร์ ซิตี้ และเวสต์บรอมวิช เท่านั้นที่แสดงท่าทีสนใจขณะที่นิวคลาสเซิ่ลทีมรักของเขาไม่ได้สนใจมากนัก นอกจากการปล่อยให้เขาทดสอบฝีเท้าในตำแหน่งผู้รักษาประตู

ทว่าการสูญเสียของทีมบ้านเกิดกลายเป็นกำไรของทีมเล็กๆ อย่างเซาแธมป์ตัน ที่หยิบยื่นโอกาสให้เชียเรอร์ได้แจ้งเกิดบนเส้นทางค้าแข้ง จนกลายเป็นยอดยาวยิงในตำนานดังเช่นปัจจุบัน เมือ่อายุ 13 ฝีเท้าของเขาเกิดเตะตา จอร์น ฮิกกสัน แมวมองระดับเซียนขของเซาแธมป์ตัน กระทั่งเชียเรอร์ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเรียนในสังกัดของสโมสรเดอะ เซนต์ส ในปีถัดมา

มาร์คุส โรเซนเบิร์ก คว้าแชมป์ลีกสวีเดน ร่วมกับสโมสรฮาล์มสตัด

มาร์คุส โรเซนเบิร์ก คว้าแชมป์ลีกสวีเดน ร่วมกับสโมสรฮาล์มสตัด

มาร์คุส โรเซนเบิร์ก
มาร์คุส โรเซนเบิร์ก

            ไม่เพียงแต่มาร์คุส โรเซนเบิร์กจะคว้าแชมป์ลีกสวีเดน ร่วมกับสโมสรฮาล์มสตัด แล้ว โดรเซนเบิร์ก ยังเป็นเจ้าของดาวซัลโซสูงสุดประจำลีกด้วยจำนวนประตู 14 เม็ด

นอกจากนี้ในการเล่นระดับชาติ โรเซนเบิร์ก ก็สามารถสร้างชื่อได้ทันที ในการลงประเดิมสนามนัดแรก ให้กับสวีเดน เมื่อพังประตูได้ทันทีในเกมอุ่นเครื่องกับเกาหลี ที่ลอสเองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา

การที่ โรเซนเบิร์ก ลุกจากม้านั่งสำรองแล้วลงมาตะบันประตูให้ไวกิ้ง ตีเสมอพลังโสมได้ สร้างความประทับอกประทับใจ รวมทั้งสร้างความอบอุ่นให้กับ ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนชือทีมชาติสวีเดนเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองหน้าอันดับหนึ่งอย่าง เฮนริคลาร์สสัน จาก บาร์เซโลน่า ได้รับบาดเจ็บจนต้องหยุดพักแข้งตลอดทั้งฤดูกาล ขณะที่ แม็ทเธียส สเวนส์สัน ฟอร์มบู่กับ นอริช ซิตี้ ส่วน มาร์คุส อัลบัค ก็ยังฝึกอยู่ที่ ฮันซ่า รอสต็อค ส่งผลให้ทีมชาติสวีเดน มีแนวร่วมในแนวรุกน้อยมาก

จึงไม่แปลกที่ ลาร์เกอร์บัค จะมีแผนการจับ โรเซนเบิร์ก ไปยืนล่าตาข่ายคู่กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ของยูเวนตุส

โรเซนเบิร์ก วัย 22 ปัจจุบันย้ายไปเล่นให้กับต้นสังกัดแรกอย่างมัลโม หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอดตลอดช่วงเวลาที่โดน ฮาล์สตัดยืมไปใช้งาน ด้วยการยิงประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำ และโชว์เทคนิคลูกเล่นแพรวพราวต่างๆ ออกมาเป็นระยะๆ

แต่คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมและโดดเด่นมากของ โรเซนเบิร์ก คือความไม่เห็นแก่ตัว เขาพร้อมจ่ายบอลให้เพื่อนที่มีโอกาสทำประตูดีกว่าอย่างไม่ลังเล ซึ่งนี้คือการเล่นเอทีมอย่างแท้จริง

มอร์แกน เด ซานติส “ปราการด่านสุดท้ายแห่งอูดิเนเซ่”

มอร์แกน เด ซานติส “ปราการด่านสุดท้ายแห่งอูดิเนเซ่”

มอร์แกน เด ซานติส
มอร์แกน เด ซานติส

การทุ่มเทซ้อมหนักอันนี้แน่นอน ผมไม่เคยทำเล่นๆ ผมทุ่มเทและเอาจริงเอาจังเสมอ นอกจากนั้นผลการแข่งขันที่ดีของอูดิเนเซ่ ในช่วงปีหลังๆก็มีส่วนช่วยไม่น้อย มันเป็นผลงานที่ผลักดันให้เรากล้าเล่น หลายคนมีผลงานที่ดีขึ้น หนึ่งในนั้นรวมถึงตัวผมด้วย

มันเป็นช่วงเวลาที่งดงามมาก ความรู้สึกของ มอร์แกน เด ซานติส ตอนอายุ 17 ปี มันแตกต่างจากตอนที่เป็นผู้ใหญ่ที่โตเต็มตัว หลายสิ่งหลายอย่างเหลือเชื่อ ผมเองก็เป็นคนโชคดีไม่น้อย แม้บางที่จะมีช่วงเวลาแย่ๆ เข้ามาบ้างเหมือนกันก็ตาม

ก็ใช่ ผมเซฟมาหลายลูกแต่นานแล้วเหมือนกันนะ ที่ผมพุ่งหาบอลไม่เจอเลย

ผมกำลังพูดถึงช่วงเวลาตอนที่ผมอายุราว 20 ปี ยูเวนตุส ดึงผมไปร่วมทีม เป็นเวลาร่วมสองปีที่ผมจำใจต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ จากนั้นผมก็เลือกย้ายมา อูดิเนเซ่ พร้อมกับความหวังที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่ผมก็ต้องมานั่งเป็นสำรองอีกสองปีเต็ม ก่อนที่โอกาสที่แท้จริงจะมาถึง มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสับสน ทั้งวุ่นวาย ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนร่วมรุ่นที่โตขึ้นมาไล่ๆกันจากชุดเยาวชนได้ลงเป็นตัวจริง ได้ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ แต่ประสบการณ์ช่วงนั้น มันช่วยให้ผมเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

หลายคนมีส่วนช่วยและผมก็อยากจะกล่าวขอบคุณพวกเขาเหล่านี้ เป็นพิเศษเลยก็คือ มาริโน่ ผู้อำนวยการคนเก่าของ อูดิเนเซ่ ซึ่งคนที่คอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอด ย้ำอยู่เสมอๆว่าผมคืออนาคตของ อูดิเนเซ่ มาถึงตรงนี้ผมก็ได้แต่บอกว่าเขาพูดถูก

เปโดร โรดิเกรช คือตัวเลือกที่ลิเวอร์พูล ควรดึงมาเสริมทีม หากฤดูกาลหน้าหวังจะทำผลงานให้ดีขึ้น

เปโดร โรดิเกรช คือตัวเลือกที่ลิเวอร์พูล ควรดึงมาเสริมทีม หากฤดูกาลหน้าหวังจะทำผลงานให้ดีขึ้น

หากพูดถึงผลงานของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์ ในฤดูกาลนี้นั้น ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่าฤดูกาลนี้ ผลงานของลิเวอร์พูลนั้นเป็นผลงานที่ทำได้อย่างน่าผิดหวังไปหน่อยจริงๆ เพราะฤดูกาลนี้เป็นอีกครั้งที่พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรติดมือได้เลย แถมยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาจบอันดับอยู่ในโซนท็อปโฟร์ได้อีกด้วย ทั้งๆที่ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานได้ดีคว้าถึงรองแชมป์ลีกได้ ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วเห็นได้ชัดว่า ฤดูกาลนี้ผลงานของลิเวอร์พูลนั้นเป็นผลงานที่น่าผิดหวังพอสมควรจริงๆนั่นเอง

และสำหรับผลงานของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ที่ทำได้อย่างน่าผิดหวังไปหน่อยนั้น ก็คงต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่าสาเหตุส่วนหนึ่งนั้นก็คือ เป็นเพราะการขาดกองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าหลุยส์ ซัวเรสไป บวกกับกองหน้าตัวใหม่ที่ซื้อเข้ามาทดแทนนั้น ไม่สามารถทดแทนกันได้อีกด้วย ก็เลยทำให้ส่งผลต่อเกมรุกและผลงานลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้แบบไม่อาจจะปฏิเสธได้ และด้วยเหตุนี้นั่นเองก็เลยทำให้คิดว่า หากฤดูกาลหน้าลิเวอร์พูลต้องการที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขาจะต้องทำหลังจากนี้นั่นก็คือ หากองหน้าหรือว่าแนวรุกตัวใหม่เพิ่ม และหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับลิเวอร์พูลก็คือ เจ้าเปโดร โรดิเกรช ปีกตัวเก่งของบาร์เซโลน่า ที่กำลังมีข่าวการย้ายทีมอยู่ด้วยนั่นเอง

สำหรับเหตุผลว่าทำไม เจ้าเปโดร โรดิเกรช เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับลิเวอร์พูล และเป็นตัวเลือกที่ลิเวอร์พูลควรดึงตัวมาเสริมทีมให้ได้นั้น นั่นก็เพราะว่า ด้วยสไตล์การเล่นและฝีเท้าของเจ้า เปโดร โรดิเกรช นั้นน่าจะตอบสนองความต้องการของลิเวอร์พูล และเพิ่มความดุดันให้กับทีมได้นั่นเอง นั่นก็เพราะเจ้า เปโดร โรดิเกรช นั้นเป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งกองหน้าและปีก ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องการจบสกอร์เป็นอย่างมาก เลยมองว่าจุดนี้เขาน่าจะเข้ามาช่วยทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลในฤดูกาลหน้า ดุดันขึ้นได้อย่างแน่นอน อีกทั้งมองว่า สไตล์การเล่นของเจ้า เปโดร โรดิเกรช นั้นน่าจะเข้ากับระบบการเล่นของลิเวอร์พูลได้ดีอีกด้วย บวกกับเจ้าเปโดร โรดิเกรช เองนั้นอยากได้โอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง เลยเชื่อว่าหากลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอไป มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะได้ตัวเขามาแน่นอน แถมราคาก็ไม่น่าจะแพงมากด้วย เลยทำให้มองว่า เปโดร โรดิเกรช นั้นคือตัวเลือกที่ลิเวอร์พูลควรดึงมาเสริมทีมให้ได้ เพราะเขาจะตอบสนองความต้องการของทีมได้ดีแน่นอนนั่นเอง