แข้งหงส์แดง “ลิเวอร์พูล”ที่ส่อแววย้ายหนีแบบไร้ค่าตัว

แข้งหงส์แดง “ลิเวอร์พูล”ที่ส่อแววย้ายหนีแบบไร้ค่าตัว

ในเวลานี้ต้องยอมรับว่าสโมสรยักษ์ใหญ่หงส์แดงลิเวอร์พูล มีขุมกำลังนักเตะที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะการบริการทีมที่ยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ทำให้หงส์แดง กลายเป็นหนึ่ง
ในสโมสรที่แข็งแกร่งพร้อมสำหรับการท้าทายแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลอาจจะต้องเสียนักเตะสำคัญบางคนออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์หน้า เพราะผู้เล่นเหล่านั้นกำลังจะหมดสัญญา
กับต้นสังกัด แน่นอนว่าแข้งบางรายหากหงส์แดงเสียไปแบบฟรี เอเยนต์คงจะแย่สุด ๆ แต่บางคนหากย้ายได้ก็ควรย้ายเพื่ออนาคตของพวกเขาเอง และการลงเล่นเพื่ออาชีพฟุตบอลที่แท้จริง

– แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลังจากที่โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ตอนนี้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าลีลารำ พิสูจน์ตัวเองกับต้นสังกัดแม่ ลิเวอร์พูล ในช่วงเริ่มต้นกับทัพ หงส์แดง
ตอนที่ไปออกทัวร์อุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กองหน้าชาวอังกฤษ มักจะมีปัญหาบาดเจ็บบ่อย ๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น โดยในเวลานี้ สเตอร์ริดจ์ กำลังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจให้กับ
“เดอะ เร้ดส์” ในฤดูกาลนี้ แม้ว่าเขาจะลงสนามเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม ทีสเตอร์ริดจ์ ซัด 4 ประตูไปแล้วจากการเล่นทุกรายการให้ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2018-19 โดยสัญญาของเขาเตรียมจะหมดในช่วงซัมเมอร์หน้า
และยังไม่มีการเจรจาเรื่องการขยายสัญญาเลย แน่นอนว่านั่นจะทำให้ หัวหอกวัย 28 ปี อาจจะย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว และมีหลายสโมสรอย่าง เซบีย่า กับ เฟเนร์บาห์เช่ ที่แสดงความสนใจตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้ ที่อยากได้ตัวไปเสริมทัพ

– อัลแบร์โต้ โมเรโน่ โมเรโน่ ทำผลงานได้น่าผิดหวังมาก ๆ กับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ที่ย้ายจาก เซบีย่า มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ โดยแบ็กซ้ายชาวสแปนิช เพิ่งได้ลงเล่นแค่เกมเดียวเท่านั้นให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ สัญญาของ
ฟูลแบ็กเลือดกระทิงดุจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ และสโมสรก็ยังไม่ได้เปิดการเจรจาเรื่องการขยายสัญญา สำหรับตอนนี้มีรายงานจากหลายสื่อว่า ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ พร้อมที่จะปล่อย โมเรโน่ ออกจากทีมแบบฟรีเอเยนต์
หลังจบฤดูกาลนี้ ทำให้นักเตะมีโอกาสที่จะเลือกย้ายไปเล่นกับสโมสรไหนก็ได้

– เจมส์ มิลเนอร์ แม้ว่าตอนนี้ มิลเนอร์ จะอายุ 32 ปีแล้ว แต่เขายังคงเป็นผู้เล่นที่สาวก “เดอะ ค็อป” ชื่นชอบมาก ๆ เนื่องจากสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นและคงเส้นคงวาให้กับต้นสังกัดตั้งแต่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจนกระทั่งในซีซั่นนี้
ฟอร์มของเขาก็ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม (หรืออาจยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ) มิลเนอร์ เป็นนักเตะที่มีบทบาทสำคัญสำหรับทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ มาก ๆ โดยเฉพาะการมีส่วนสำคัญนำ “หงส์แดง” ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสัญญาของนักเตะจะหมดลงในปีหน้า และ ลิเวอร์พูล ก็ยังนิ่งนอนใจไม่เจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ แม้ว่าจะมีข่าวลือออกมาก็ตามว่าพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับการขยายสัญญาออกไป 1 ปีตั้งแต่ต้นปีนี้ก็ตาม

– ลาซาร์ มาร์โควิช อาชีพพ่อค้าแข้งของเขาต้องเจอกับวิกฤตินับตั้งแต่ที่ย้ายจาก เบนฟิก้า มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล มาร์โควิช ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายสโมสรทั้ง เฟเนร์บาห์เช่, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, ฮัลล์ ซิตี้ และ อันเดอร์เลชท์
ตอนนี้ชีวิตการเป็นนักเตะของเขาไม่ประสบความสำเร็จในถิ่นแอนฟิลด์ และเตรียมที่จะมองหาโอกาสในการย้ายไปเล่นแบบถาวรในลีก ประเทศเบลเยียม ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่
มาร์โควิช จะได้ย้ายทีมแบบไม่ต้องมีค่าตัวเพราะสัญญาของเขาจะหมดลงในปีหน้า เพราะการที่เขาโดนลดระดับลงไปฝึกซ้อมร่วมกับนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีของทีม น่าจะเป็นไปได้นว่า ลิเวอร์พูล คงไม่คิดยื่นข้อเสนอขยายสัญญา
กับเขาอีกแล้ว

ความเคารพต่อเพื่อนร่วมทีม เป็นสิ่งสำคัญ

ความเคารพต่อเพื่อนร่วมทีม เป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อเกมทีมชาติที่ผ่านมา ในฝั่งยุโรปเชื่อว่าหลายคนคงจะโฟกัสไปที่คู่บิ๊กแมตซ์ระหว่างอิตาลีกับสเปนที่ช่วงหลังเจอกันบ่อยเหลือกัน ทั้งในเกมกระชับมิตรหรือเกมทัวร์นาเมนต์ ผลการแข่งขันวันนี้เราไม่พูดถึง แต่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นดราม่าจนเราหยิบยกมาคุยกันนั้นวันนี้คือ การโดนเปลี่ยนออกแล้วแสดงกริยาไม่สุภาพ

ความเคารพ นำมาซึ่งทีมสปิริต

ในเกมดังกล่าว กราเซียโน่ เปลโล่ กองหน้ารูปร่างสูงใหญ่ที่เกมวันนั้นเล่นไม่ออกเลย โดยเปลี่ยนออกไป แน่นอนว่าเค้าต้องหงุดหงิดหัวเสียกับการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ แต่ที่น่าตกใจก็คือ กริยาที่เค้าแสดงต่อผู้จัดการทีมอย่าง จามปิเอโร่ เวนตูร่า นั่นคือเค้าเดินออกไปแล้วปฏิเสธจับมือ ทำให้ เวนตูร่า เงิบไปพอสมควรทีเดียว

ไม่พอใจ ต้องเก็บไว้ในใจให้ได้

จากเกมในวันนั้น เปลเล่ เล่นไม่ดีจริงๆทำอะไรกองหลังสเปนไม่ได้เลย แต่การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันระดับทีมชาติแถมตัวนักเตะเองก็มีอายุพอสมควรแล้ว 31 ปี เชื่อว่า เปลเล่ ต้องเก็บอารมณ์มากกว่านี้ การแสดงออกอย่างไม่มารยาทกับผู้จัดการทีมอย่างนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อ ตัว เปลเล่ เองอย่างแน่นอน

บทลงโทษที่ตามมาอย่างรวดเร็ซ

สุดท้ายบทลงโทษก็ตามมาอย่างรวดเร็ว เมื่อทางสมาคมฟุตบอลอิตาลีแถลงการณ์ถึงการตัดชื่อ เปลโล่ ออกจากทีมชาติอิตาลีในการแข่งขันกับมาซิโดเนียในวันที่ 9 ต.ค. เนื่องจากปัญหานี้แหละ ซึ่งทางเปลเล่เองก็ออกมายอมรับผิดในครั้งนี้ด้วย แต่พูดก็พูดเลยว่า จากเกมนี้ด้วยอายุ ด้วยฟอร์มแล้ว แถมตัวนักเตะก็ไปเล่นอยู่ลีคจีนด้วย เชื่อว่าโอกาสที่เค้าจะกลับมาติดทีมชาติอิตาลีอีกครั้งดูจะยากเสียแล้ว เพราะชิโร่ อิมโมบิที่ลงสนามแทนก็เล่นได้ดีกว่า วูบวาบกว่า มุ่งมั่นกว่าเยอะ

มนต์เสนห์ของเอฟเอคัพ ปีนี้แผลงฤทธิ์แล้ว

มนต์เสนห์ของเอฟเอคัพ ปีนี้แผลงฤทธิ์แล้ว

การแข่งขันฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ ที่บางข้อมูลบอกว่าเป็นถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนั้น เชื่อว่ามนต์ขลังอย่างหนึ่งที่มักจะแผลงฤทธิ์เป็นประจำทุกปีนั่นก็คือ การที่จะมีแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ หรือทีมเล็กสามารถเอาชนะทีมใหญ่ได้แบบไม่คาดฝัน ฟุตบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ แล้วปีนี้คนที่โดนอาถรรพ์เล่นงานก็คือลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลกับปัญหาเดิมๆ

สำหรับลิเวอร์พูลนั้นถือว่าเป็นทีมที่เกือบจะโดนอาถรรพ์เอฟเอคัพนี้เล่นงานเอาเสียแล้ว เมื่อรอบที่แล้วก็กว่าจะเอาชนะพลีมัธมาได้ก็ต้องไปลุ้นกันถึงนัดรีเพลย์ที่เอาชนะไปได้ แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วคู่ต่อสู้อย่าง วูลฟ์แฮมตัน ต้องบอกว่าเตรียมตัวมาดีจริง ส่วนลิเวอร์พูลก็เหมือนเดิมปัญหาเดิมที่ยังไม่แก้ไข อย่างที่เห็นรายชื่อนักเตะในนัดนี้ ที่ต้องบอกว่าจัดทีมได้คุณภาพแย่มาก จัดทีมเล่นในบ้านจนเกือบจะระดับไปเท่ากับผู้มาเยือน ซะอย่างนั้น

โดนเร็วจนตั้งตัวไม่ติด

เชื่อว่าพอเห็นรายชื่อ 11 ตัวจริงออกมา แฟนบอลหลายคนอาจจะเกิดอาการเสียวท้องน้อยอย่างแน่นอน เพราะดูแล้วไม่น่าไว้ใจจริงๆ โดยเฉพาะแนวรับที่วันนี้ใช้คาริอุส แล้วก็เป็นไปตามนั้นพลันเสียงนกหวีดจากกรรมการเป่าเริ่มเล่นไปไม่ได้ถึงนาทีดี วูลฟ์ก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะลูกเซตเพลย์เปิดเข้าไป นักเตะวูลฟ์ถึงบอลก่อนโหม่งกระทบพื้นสวนตัวนายทวารเข้าไปแบบสุดช็อคทั้งผู้เล่นและแฟนบอลในแอนฟิลด์

ผู้มาเยือนยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ

เมื่อได้ประตูแรกแล้วก็เหมือนหนังม้วนเดิมๆคือ ลิเวอร์พูลพยายามบุกพับสนามอย่างหนักแต่ก็ไม่ได้สักที กลับกันเป็นทางวูลฟ์ที่ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ สวนกลับสวยๆจนได้ลูกที่สอง พอครึ่งหลังลงมาสู้ต่อ ลิเวอร์ก็เจาะเหมือนเดิม มาได้ลูกแรกเอาตอนท้ายเกมแล้วมันก็เลยไม่ทัน สุดท้ายตกรอบไปแบบสุดช้ำเลยทีเดียว

ยูเวนตุส รีแบรนด์ดีหรือไม่ดี

ยูเวนตุส รีแบรนด์ดีหรือไม่ดี

ในแวดวงฟุตบอลอิตาลีช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมีดีลเด็ดๆสร้างความฮือฮาสักเท่าไร แต่มีอีกข่าวหนึ่งถือว่าสร้างความฮือฮาได้ดีทีเดียวนั่นก็คือ ข่าวการรีแบรนด์ตราสโมสรใหม่ของ ยูเวนตุส สโมสรดังของอิตาลี ที่คราวนี้ต้องยอมรับว่าพวกเค้ามาแปลกทีเดียว ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ตัวเองแบบนี้

จากลวดลายเหลือเพียงตัวอักษร

การรีแบรนด์ครั้งนี้ ทางยูเว่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปแบบที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมกันเลยทีเดียว เพราะจากเดิมที่เป็นรูปวงรี ด้านในมีลายขาวดำ มีชื่อสโมสรและตราม้าอยู่ด้านล่าง เหลือเพียงแค่ตัว J (เจ) สีขาวเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ด้านบนมีชื่อสโมสรอยู่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนฟอนต์ไป นัยว่าต้องการเน้นให้จำชื่อสโมสรได้ง่ายขึ้น

การรีแบรนด์ เป็นเรื่องธรรมดา

สำหรับการรีแบรนด์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามากของวงการฟุตบอลสโมสร แต่ละทีมมักจะมีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ของทีมอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ที่เปลี่ยนก็เพื่อเรื่องของการตลาด และแคมเปญบางอย่างด้วย อย่างยูเวนตุสนี่ก็เปลี่ยนมาแล้ว 10 อันกว่าจะมาถึงอันปัจจุบัน ซึ่งแต่ละอันก็โดนใจแต่บางอันก็ไม่โดน

การก้าวไปในระดับโลก

การเปลี่ยนแปลงของยูเวนตุสในครั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของกูรูเมืองนอกมองว่ามันคือการสื่อชื่อทีมไปถึงในระดับที่เป็นสากลมากขึ้น ทำให้แฟนบอลจดจำทีมและชื่อทีมได้มากขึ้น เหมือนกับการใช้ตัว M ของแม็คโดนัลด์โน่นเลย ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว การรีแบรนด์ครั้งนี้ของยูเวนตุส จะสามารถยกระดับด้านนอกสนามของทีมยูเวนตุสไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างไรก็ดี ผลงานนอกสนามจะไม่ไปไหนเลย ถ้าหากผลงานในสนามไม่ดีจริงๆ

 

เกือบไป สำหรับลิเวอร์พลู

เกือบไป สำหรับลิเวอร์พลู

ลิเวอร์พลู
ลิเวอร์พลู

ต้องบอกว่าเป็นเกมที่ออกมาได้สูสีอย่างไม่น่าเชื่อเท่าไร นั่นก็คือ เกมเอฟเอคัพ รีเพลย์รอบสามระหว่าง พลีมัธ ที่สามารถไปยันเสมอลิเวอร์พลูได้แบบหักปากกาเซียน ที่คราวนี้ได้โอกาสเปิดบ้านต้อนรับเหล่าเดอะค็อปบ้าง ยังถือว่าโชคดีที่มนต์ขลังของเอฟเอคัพของปีนี้ที่จะต้องมีการพลิกล็อคยังไม่เกิดขึ้น เมื่อ ลิเวอร์พลูเบียดเอาชนะไปได้เพียงแค่ 1-0

ทีมสำรองที่คุณภาพยังไม่ถึง

ในเกมนี้เจอร์เก็น คลอป์ กุนซือสมองเพชรของทีมได้เปลี่ยนแปลงทีมจากเกมแดงเดือดจากทีมชุดใหญ่ เป็นการนำทีมชุดผสมระหว่างทีมสำรองและเยาวชนลงเล่นในเกมนี้ แน่นอนว่าการส่งทีมสำรองลงเล่นในเกมที่เจอกับทีมที่อ่อนชั้นกว่าถือว่าไม่แปลก แต่ก็ต้องยอมรับว่า คุณภาพทีมสำรองและเหล่าเยาวชนนั้นยังไม่ถึงขั้นจริง เห็นได้จากการเล่นฟุตบอลที่ยังไม่สามารถเอาชนะได้เลย แต่ก็ยังโชคดีที่มีตัวละครลับโผล่ขึ้นมาได้ถูกเวลาพอดี

ตัวละครลับที่มาถูกเวลา

เกมนี้ต้องบอกว่าเหมือนเป็นการเปิดการ์ดตัวละครลับเลย เนื่องจากผู้ที่มาพิชิตชัยในเกมที่น่าจะเอาชนะผ่านไปได้แบบสบายๆนั่นก็คือ ลูคัส เลวา กองกลางโลกลืมที่แฟนบอลหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่ายังมีเค้าอยู่ในทีม ไม่น่าเชื่อว่า ลูคัส เลวา ประตูสุดท้ายของเค้าเกิดเมื่อปี 2010 หรือเกือบ 7 ปีที่แล้วโน่นเลย ถือว่าเป็นประตูที่มาถูกเวลาจริงๆ เพราะหากไม่ได้ประตูนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องยื้อไปถึงจุดโทษ ถ้าชนะก็แล้วไป แต่หากลิเวอร์พลูแพ้จุดโทษ บวกกับความเหนื่อยล้าจากการบดมาเต็ม 120 นาที รับรองว่า มีผลต่อเกมลีคสุดสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี ผลชนะในเกมนี้ทำให้พวกเค้าได้โอกาสเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับ วูลฟ์แฮมตัน ที่น่าจะผ่านได้ (หรือเปล่า)

 

ยกเลิกการล้ำหน้า อย่าเลย ไม่ดีหรอก

ยกเลิกการล้ำหน้า อย่าเลย ไม่ดีหรอก

ล้ำหน้า
ล้ำหน้า

การปรับเปลี่ยนแปลงกฎการเล่นฟุตบอลถือว่ามีการถกเถียงและทำมาตลอด บางอย่างเปลี่ยนแล้วก็เข้าท่าดี อย่างเช่นการนำเทคโนโลยีโกล์ไลน์มาช่วยตัดสินว่าเข้าหรือไม่เข้า หรือ การเพิ่มตัวสำรองที่สามารถใส่ชื่อได้แต่ละเกมที่จะช่วยให้การวางแผนทำได้หลากหลายมากขึ้น แต่บางกฎที่มีการนำเสนอแล้วว่าขอเปลี่ยนคือ การยกเลิกกฎล้ำหน้า

จะทำให้เกมฟุตบอลบุกน้อยลง

หากการยกเลิกกฎล้ำหน้าออกไป คนที่นำเสนอบอกว่าจะทำให้มีฟุตบอลมีเกมบุกมากขึ้น แต่เอาเข้าจริง หากยกเลิกกันจริง มันจะทำให้เกมฟุตบอลบุกน้อยลงมากกว่า เพราะตัวรับต้องคอยพะวงการหลุดของกองหน้า กองกลางก็ไม่บุก กองหน้าก็ยืนแกร่วรอบอลโด่งอย่างเดียว ไปๆมาๆ มันก็ทำให้เกมฟุตบอลน่าเบื่อมากขึ้น ไม่มีการบุก ดูแล้วง่วงนอน

ยิงได้มากขึ้น แต่คุณภาพน้อยลง

เหตุผลหนึ่งที่เค้าเสนอเรื่องการยกเลิกกฎล้ำหน้า ก็เพราะว่าจะทำให้กองหน้ามีโอกาสการยิงประตูมากขึ้น เล่นได้มากขึ้น แฟนบอลน่าจะสนุกกับการดูฟุตบอลมากขึ้น อันนี้ขอเถียงส่วนหนึ่งอาจจะทำให้การยิงประตูเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้นก็จริง แต่คุณภาพของการยิงประตูจะน้อยลง ไม่มีการต่อบอลทำชิ่ง กันอย่างสวยงามเข้าไป จะมีแต่การโยนบอลโด่งอย่างเดียว พูดง่ายๆว่าคุณภาพการยิงประตูน้อยลง แถมไม่ตื่นเต้นอีกต่างหาก ลองเทียบดูระหว่าง การหลุดเดี่ยวไปแบบง่ายๆ กับการจักรยานอากาศยิงแบบเหนือๆที่มีตัวประกบอยู่ด้วยอย่างไหนดูมี คลาส มากกว่ากัน

นักกีฬาเหนื่อยมากขึ้น

การยกเลิกกฎล้ำหน้า อาจจะมองว่าทำให้เหนื่อยน้อยลง แต่เอาจริงๆ มันกลับสร้างภาระให้กับนักกีฬามากขึ้น เนื่องจากไม่มีกับดักล้ำหน้า ทำให้นักกีฬาต้องคอยวิ่งขึ้น วิ่งลงตลอดเวลา ผลก็คือ นักกีฬาเหนื่อยมากขึ้น โดยเฉพาะกองหลัง ต้องวิ่งขึ้น วิ่งลงตลอดเวลา อาจจะทำให้ร่างกายพังเร็วกว่าที่คิด

บางทีมูริญโญ่ควรจับวิลเลี่ยนเล่นกลางบ่อยขึ้น เพื่อกดดันออสก้าบ้าง

บางทีมูริญโญ่ควรจับวิลเลี่ยนเล่นกลางบ่อยขึ้น เพื่อกดดันออสก้าบ้าง

ออสก้า
ออสก้า

หากพูดถึงฟอร์มและผลงานของทีมสิงห์ไฮโซเชลซีในช่วงระยะหลังๆของฤดูกาลนี้นั้น ต้องบอกว่าดูเหมือนฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอของพวกเขานั้น จะดูดรอปลงไปพอสมควรเลย เพราะจะเห็นได้ว่าช่วงหลังๆนั้นทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือโฆเซ่ มูริญโญ่นั้นเริ่มสะดุดมากขึ้น ฟอร์มการเล่นของทีมก็เริ่มดูดรอปๆลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของฟอร์มนักเตะในทีมนั้น จะเห็นได้ว่ามีหลายคนเลยทีเดียวที่ดูฟอร์มตกลงไปพอสมควร จึงไม่แปลกที่ผลงานของทีมเชลซีเลยดรอปตามลงไปด้วย ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่ถือว่าฟอร์มตกลงไปพอสมควรเลยในฤดูกาลนี้นั้น นั่นก็คือเจ้าออสก้านั่นเอง

ซึ่งต้องบอกว่า สำหรับฤดูกาลนี้นั้น หลังจากที่ได้ติดตามดูฟอร์มการเล่นของทีมเชลซีและฟอร์มการเล่นของนักเตะหลายๆคนของเชลซีแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่า สำหรับเจ้าออสก้านั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ฟอร์มตกลงไปเยอะที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สาเหตุที่ทำให้เจ้าออสก้าฟอร์มตกนั้นเป็นเพราะอะไร แต่คิดว่าบางทีโฆเซ่ มูริญโญ่นั้นควรจะต้องรีบทำอะไรซักอย่างได้แล้ว เพราะพอเจ้าออสก้าฟอร์มตกมันก็ได้ส่งผลต่อทีมเชลซีพอสมควรเหมือนกัน เพราะจะเห็นได้ว่าช่วงหลังๆนั้น เชลซีมักจะทำเกมในแดนกลางของตัวเองไม่ค่อยได้เลย ซึ่งหนึ่งในคนสำคัญของเชลซีในแดนกลางนั้น นั่นก็คือเจ้าออสก้าที่มูริญโญ่ได้เลือกให้เป็นจอมทัพของทีม แต่ผลงานที่ออกมากลับน่าผิดหวังไปหน่อย โดยเฉพาะในเรื่องการการปั้นเกมรุกนั้น เรียกได้ฟอร์มตกลงไปเยอะเลย ดังนั้นเลยคิดว่า ในเมื่อเจ้าออสก้าฟอร์มตกแบบนี้ มูริญโญ่ก็ควรเลือกให้เจ้าวิลเลี่ยนนั้นลงเล่นในตำแหน่งของเจ้าออสก้าแทนมากขึ้น

นั่นก็เพราะว่า ถ้าหากดูจากฟอร์มที่ผ่านมานั้น เจ้าวิลเลี่ยนเหมือนจะทำได้ดีกว่าเจ้าออสก้าพอสมควรเลย แม้ว่าในเรื่องการปันเกมรุกนั้น เจ้าวิลเลี่ยนจะเป็นรองเจ้าออสก้า แต่ทว่าในเรื่องของการไปกับบอลได้ดีนั้น เจ้าวิลเลี่ยนทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่อเจ้าออสก้าฟอร์มตกแบบนี้ก็ควรให้โอกาสเจ้าวิลเลี่ยนมากขึ้น น่าจะเป็นผลดีต่อทีมมากกว่า และที่สำคัญเลย จุดประสงค์สำคัญที่สุดว่าทำไมมูริญโญ่ควรเลือกให้โอกาสเจ้าวิลเลี่ยนลงเล่นแทนในตำแหน่งของเจ้าออสก้ามากขึ้น นั่นก็เพราะจะได้เป็นการกดดันเจ้าออสก้าให้พยายามเค้นฟอร์มเก่งออกมาภายในตัวไปด้วย เพราะสังเกตุจากฤดูกาลก่อนหน้านี้ เจ้าออสก้ามักจะโชว์ฟอร์มได้ดี ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นก่อนหน้านี้มีเจ้า ฆวน มาต้าอยู่อีกคน เลยทำให้เจ้าออสก้านั้นเลยพยายามเค้นฟอร์มเก่งออกมานั่นเอง ดังนั้นเลยคิดว่าหลังจากนี้หากเจ้าออสก้านั้น ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้น มูริญโญ่ควรให้โอกาสเจ้าวิลเลี่ยนลงเล่นแทนให้มากขึ้น เพื่อจะได้กดดันให้เขาเรียกฟอร์มเก่งออกมา เพื่อจะเป็นดีต่อสโมสรมากที่สุดนั่นเอง.