อูไน เอเมรี่: อัจฉริยะที่นำพาแอสตัน วิลล่า สู่ฝันยุโรป

อูไน เอเมรี่: อัจฉริยะที่นำพาแอสตัน วิลล่า สู่ฝันยุโรป

หลังจากหายไปจากการแข่งขันระดับสูงของยุโรปนานถึง 41 ปี ในที่สุดแอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ก็กลับมาอยู่บนเวทีใหญ่ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และการกลับมาครั้งนี้เป็นไปอย่างน่าประทับใจอย่างยิ่ง โดยภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี่ (Unai Emery) วิลล่าไม่เพียงแค่กลับมาเล่นในยุโรปเท่านั้น แต่ยังโชว์ฟอร์มการเล่นที่น่าจดจำอีกด้วย

ในค่ำคืนที่แฟนบอลวิลล่าระลึกถึงตำนานของสโมสรอย่างแกรี่ ชอว์ (Gary Shaw) ที่เพิ่งจากไป ทีมของเอเมรี่ได้สร้างผลงานที่น่าภาคภูมิใจเมื่อพวกเขาเอาชนะแชมป์สวิสอย่างยัง บอยส์ (Young Boys) ด้วยสกอร์ 3-0 ในกรุงแบร์น โดยนักเตะที่ทำประตูให้กับทีมคือยูริ ตีเลอมันส์ (Youri Tielemans), จาค็อบ แรมซี่ย์ (Jacob Ramsey) และอามาดู โอนาน่า (Amadou Onana)

ผลการแข่งขันนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแอสตัน วิลล่า ที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้การนำของเอเมรี่ ที่นำทีมเข้าสู่ยุโรปได้อย่างน่าทึ่ง เอเมรี่เคยคว้าชัยชนะในยุโรปถึง 89 นัดตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงมาก มีเพียงเป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) และโชเซ่ มูรินโญ่ (Jose Mourinho) เท่านั้นที่มีสถิติใกล้เคียงกับเขา

สตีเฟ่น วอร์น็อค (Stephen Warnock) อดีตกองหลังของแอสตัน วิลล่า ให้สัมภาษณ์กับ BBC Radio 5 Live ว่า “อูไน เอเมรี่เป็นอัจฉริยะ เมื่อคุณเข้าสู่แชมเปี้ยนส์ลีก คุณต้องการผู้จัดการทีมที่มีความยืดหยุ่น เข้าใจในแท็กติก และรู้วิธีปรับตัวในการแข่งขันอย่างรวดเร็ว มันทำให้เขาและแอสตัน วิลล่าประสบความสำเร็จมากมาย เขายอดเยี่ยมจริงๆ”

แม้ว่าวิลล่าจะต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวให้เข้ากับสนามเทียมที่สตาดิโอน แวงค์ดอร์ฟ (Stadion Wankdorf) แต่หลังจากยูริ ตีเลอมันส์ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำแล้ว พวกเขาก็ไม่หันหลังกลับ และเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับทีมยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) สู่สนามวิลล่าพาร์ค (Villa Park) ในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของทั้งสองทีม หลังจากที่วิลล่าชนะในรอบชิงชนะเลิศปี 1982

การ แทงบอลสโบเบต เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดิมพันฟุตบอลออนไลน์ คุณสามารถวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบเมื่อ แทงบอลสโบเบต ไม่ว่าจะเป็นบอลเต็งหรือบอลสเต็ป

เอเมรี่: ความสำเร็จที่มากกว่าการคุมทีม

อูไน เอเมรี่ได้อุทิศชัยชนะครั้งนี้ให้กับแกรี่ ชอว์และครอบครัวของเขา โดยกล่าวกับ TNT Sports ว่า “เราสานต่อการเดินทางในแชมเปี้ยนส์ลีกที่พวกเขาจบไว้เมื่อ 42 ปีที่แล้ว ชัยชนะครั้งนี้ขอมอบให้กับแกรี่ ชอว์และครอบครัวของเขา”

แม้จะเป็นเกมที่ยากลำบาก แต่ประสบการณ์จากการแข่งขันในยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (Europa Conference League) เมื่อปีที่แล้วทำให้ทีมวิลล่ามีความพร้อม เอเมรี่กล่าวว่า “เรามีสมาธิเต็มที่ตลอด 90 นาที และพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพสนามและคู่แข่งเสมอ”

เอเมรี่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่าในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งในขณะนั้นทีมอยู่ในอันดับที่ 16 ของพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยการคุมทีมที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เขานำทีมเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มของแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างที่น้อยคนจะคาดคิด

วิลล่ากลับมาสู่จุดสูงสุด

แฟนบอลแอสตัน วิลล่าหลายคนตื่นเต้นกับการกลับมาของทีมในการแข่งขันชั้นนำของยุโรป พอล (Paul) แฟนบอลตัวยงที่เดินทางมาพร้อมกับโทนี่ (Tony) และสก็อตต์ (Scott) บอกว่า “นี่คือความฝันของผมมานานมาก”

โทนี่เองก็เชื่อว่าภายใต้การนำของเอเมรี่ แอสตัน วิลล่าจะสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างแน่นอน เขากล่าวว่า “ถ้าคุณสามารถเก็บได้ 10 หรือ 11 แต้มจากเกมของคุณ คุณก็มีโอกาสผ่านเข้ารอบได้”

วิลล่ากำลังเติบโตและกลับมาสู่จุดที่พวกเขาควรอยู่ในวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

โอลโม่,ยามาล ฟอร์มแจ่ม ตัดเกรดนักเตะ สเปน ชนะ ฝรั่งเศส

ในศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศระหว่างทีมชาติ สเปน (Spain) กับทีมชาติ ฝรั่งเศส (France) ทีมชาติสเปนได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสด้วยสกอร์ 2-1 โดยในเกมนี้มีผู้เล่นหลายคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่ ที่ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติสเปนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ วันนี้เว็ป แทงบอลสโบเบต จะมาตัดเกรดผลงานนักของ ทีมชาติสเปน ให้ทุกคนได้ทราบ

ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) : 8.5

ลามีน ยามาล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ โดยเขาทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับทีมชาติสเปนด้วยการซัดไกลสุดงาม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรที่ยิงประตูได้ ฟอร์มของเขาในครึ่งแรกถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่ได้ครองบอลสามารถปั่นป่วนเกมรับของฝรั่งเศสได้ตลอดเวลา แม้ในครึ่งหลังฟอร์มจะดร็อปลงไปเล็กน้อยเนื่องจากทีมเน้นการรักษาสกอร์ แต่ผลงานโดยรวมของเขานับว่าน่าประทับใจมาก

ดานี่ โอลโม่ (Daniel Olmo) : 8.5

ดานี่ โอลโม่ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมนี้ เขามีส่วนสำคัญกับการทำประตูชัยของทีม ด้วยการโชว์ทักษะเหนือชั้นในการกระดกบอลหลบแนวรับของฝรั่งเศส ก่อนที่จะซัดเต็มข้อบอลแฉลบ ชูลส์ กุนเด้ เข้าประตูไป นอกจากการทำประตูแล้ว โอลโม่ยังมีการครองบอลที่ดี และการผ่านบอลที่แม่นยำ ทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของสเปน

อูไน ซิม่อน (Unai Simón) : 6.5

อูไน ซิม่อน ไม่สามารถป้องกันจังหวะเสียประตูแรกได้ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถยกระดับฟอร์มขึ้นมาได้เรื่อย ๆ โดยมีการยืนตำแหน่งที่ดีทำให้สามารถป้องกันลูกยิงของฝรั่งเศสได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังเล่นด้วยความนิ่งและมีวินัยในการทำหน้าที่ของตัวเอง

เฆซุส นาบาส (Jesús Navas) : 5.5

เฆซุส นาบาส แม้จะอายุ 38 ปี แต่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นเกม โดยการสู้กับ เอ็มบัปเป้ แต่ในช่วงต่อมาเขาไม่สามารถตัดบอลจาก เอ็มบัปเป้ ที่เปิดบอลให้ โกโล่ มูอานี่ ทำประตูนำ 1-0 หลังจากนั้น นาบาสก็โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์แนวรุกของฝรั่งเศส ก่อนที่จะบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออก

นาโช่ เฟร์นานเดซ (Nacho Fernández) : 6

นาโช่ เฟร์นานเดซ ต้องเจอกับความยากลำบากในการรับมือกับ โกโล่ มูอานี่ แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และในครึ่งหลังต้องสู้กับ บาร์กโกล่า ที่ทั้งเร็วและแข็งแกร่ง แต่ก็ยังพอเอาตัวรอดมาได้

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (Aymeric Laporte) : 6.5

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ พลาดท่าให้ โกโล่ มูอานี่ ขึ้นโขกทำประตูแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถระเบิดฟอร์มขึ้นมาได้ และเล่นได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับ

มาร์ก กูกูเรย่า (Marc Cucurella) : 7

มาร์ก กูกูเรย่า สามารถสู้กับความรวดเร็วและคล่องตัวของ อุสมาน เดมเบเล่ ได้ดีเยี่ยม ทำให้ เดมเบเล่ ไม่สามารถเล่นได้ตามที่ต้องการ และยังทำเกมรุกได้โดดเด่นโดยวิ่งเติมเกมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นอกจากนี้ยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นและสกัดบอลแม่นยำ

โรดรี้ (Rodri) : 7.5

โรดรี้ ทำหน้าที่ในการเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง และยังครองบอลเหนียวแน่น รวมทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำ ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิสำหรับการทำหน้าที่ของมิดฟิลด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้

ฟาเบียน รุยซ์ (Fabián Ruiz) : 7

ฟาเบียน รุยซ์ มีโอกาสโหม่งทำประตูในช่วงต้นเกม แต่บทบาทในแดนกลางโดดเด่นมาก โดยเขาคอยเชื่อมเกมและคุมจังหวะการเล่น ทำให้แผงมิดฟิลด์ของสเปนเหนือกว่าฝรั่งเศส

อัลบาโร่ โมราต้า (Álvaro Morata) : 6

อัลบาโร่ โมราต้า แม้จะไม่ได้โดดเด่นในจังหวะเกมรุก แต่มีส่วนช่วยเกมรับของทีมเยอะมาก โดยพยายามลงไปเล่นลึก และหาจังหวะเปิดบอลยาวให้ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ได้ใช้ความเร็วเล่นงานเกมรับคู่แข่ง

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ (Nico Williams): 7

นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา แต่ความเร็วของเขายังเป็นอันตรายมาก โดยในช่วงต้นครึ่งหลังเขาโชว์สปีดฉีกหนี ชูลส์ กุนเด้ แต่ไม่น่าเสียดายที่ ไมค์ เมนญอง วิ่งออกมาตัดบอลได้ทัน

ผู้เล่นสำรองที่ลงสนามก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะ ดาเนียล บีเบียน ที่ลงมาช่วยทำให้เกมรับของสเปนแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วน มิเกล เมริโน่ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีในการประสานงานในแดนกลางและแดนหน้า

 

ในภาพรวม ทีมชาติสเปนแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศส ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจากเว็ป แทงบอลสโบเบ็ต เว็ปเก็บสถิติข้อมูลกีฬาชื่อดัง